นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/61 ขยายตัว 3.7% จากตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.3-3.6% และจากไตรมาส 3./61 ที่ขยายตัว 3.2% ปัจจัยหลักมาจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวกลับมาเติบโตในอัตราเพิ่มมากขึ้นเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจไทย ขณะที่ภาคการส่งออกยังขยายตัวได้ค่อนข้างต่ำที่ 2.3% จากไตรมาส 3/61 ขยายตัว 2.6%
โดยรวมจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ GDP ทั้งปี 61 ขยายตัวได้ 4.1% สูงสุดในรอบ 6 ปี แต่ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 4.2% เล็กน้อย เนื่องจากการลงทุนภาครัฐในช่วงไตรมาส 4/61 ติดลบราว 0.1%
ด้านนายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการ สศช. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/61 เติบโตได้ 3.7% เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโตได้ 3.2% โดยในด้านการใช้จ่าย มีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งขึ้นของการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการปรับตัวดีขึ้นของการส่งออกสินค้าและบริการ ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัว
ส่วนในด้านการผลิตนั้น การผลิตสาขาอุตสาหกรรม สาขาการขายส่ง การขายปลีก และการซ่อมแวม สาขาโรงแรมและภัตตาคาร และสาขาการขนส่งและคมนาคมขยายตัวเร่งขึ้น ส่วนการผลิตภาคเกษตรและสาขาก่อสร้างชะลอตัวลง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 61 เติบโตได้ 4.1% เร่งตัวขึ้นจาก 4.0% ในปี 60 และถือว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี
ท้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 61 ที่เติบโตต่ำกว่าประมาณการเดิมที่คาดไว้ 4.2% เล็กน้อย เป็นผลมาจากตัวแปรที่สำคัญ คือ การลงทุนภาครัฐในไตรมาส 4/61 ติดลบ 0.1% นอกจากนี้ ยังมาจากอีก 2 ปัจจัยร่วมด้วย คือ ปัญหาสงครามการค้าที่เห็นผลกระทบต่อการส่งออกของไทยชัดเจนขึ้นตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 61 และปัจจัยชั่วคราวด้านการท่องเที่ยวจากยอดนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในปี 61 ยังสามารถขับเคลื่อนได้จากอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น