นักวิเคราะห์กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนในต่างประเทศและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่คุกคามเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ แม้ว่าประเทศจะมีธุรกิจการส่งออกที่สดใสและมีอัตราการบริโภคที่ฟื้นตัวดีขึ้นก็ตาม
ธนาคารกลางเปิดเผยแถลงการณ์ที่มีขึ้นภายหลังการประชุมของผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่านร่วมกับนายลี ซอง-แต ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ว่า "คณะกรรมการกำหนดนโยบายควรจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า ภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและความผันผวนในตลาดเงินทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมและตลาดเงินของเกาหลีใต้อย่างไรบ้าง"
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า ปัจจัยหนุนด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งทางการต้องประคับประคองปัจจัยหนุนดังกล่าวให้ดำเนินต่อไป พร้อมทั้งสร้างเสถียรภาพด้านราคาผู้บริโภค และป้องกันภาวะการกระจุกตัวในตลาดเงินควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดว่า เศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวลงอีกในปีนี้ โดยวิกฤตสินเชื่อของสหรัฐอาจเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการส่งออก ขณะที่ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นก็เป็นปัจจัยที่เร่งให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
โดยธนาคารคาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้จะขยายตัวขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับระดับ 4.8% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อปี 2549 เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.0%
ด้านนายคิม ซอค-ดอง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังเกาหลีใต้กล่าวว่า รัฐบาลจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินเพื่อป้องกันมิให้ตลาดได้รับผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อ พร้อมทั้งจะเรียกร้องให้กองทุนภายใต้การบริหารของรัฐบาลเข้าซื้อหุ้น เพื่อช่วยพยุงให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในวันนี้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 1.2% ปิดที่ระดับ 1,628.42 จุด หลังจากที่ปิดร่วงลงเมื่อสองวันที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--