ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร,ปอนด์ ขานรับดาวโจนส์พุ่งแรง

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ เพราะได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวันก่อน ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4593 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4612 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนดร่วงลงแตะระดับ 1.9526 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9625 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 105.75 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 106.48 เยนต่อดอลลาร์ 
          เอคิโอะ ชิมิสุ นักวิเคราะห์จากมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงกิ้ง กล่าวว่า ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางกลุ่มยังลังเลที่จะเข้าซื้อดอลลาร์ เพราะยังคงมีมุมมองในด้านลบต่อแนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลก นอกเสียจากว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง
          เมื่อคืนนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 298.98 จุด หรือ 2.50% แตะระดับ 12,270.17 จุด เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
          ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันจาการที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.75%  สู่ระดับ 3.50% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.75% สู่ระดับ 4.00% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ
          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังไม่ลดดอกเบี้ยตามเฟด โดยนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบี ย้ำว่าภารกิจหลักของอีซีบีในเวลานี้คือการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ควบคู่ไปกับการจับตาทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจและผลกระทบที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งการที่นายทริเชต์ออกมากล่าวเช่นนี้นั้น ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า อีซีบีไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในเวลานี้