ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (24 ม.ค.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน ซึ่งได้ช่วยให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น แต่ก็ไม่สามารถขจัดความหวั่นวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลงได้อย่างสิ้นเชิง
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 298.98 จุด หรือ 2.5% แตะที่ระดับ 12,270.17 จุด หลังจากที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.75% มาอยู่ที่ระดับ 3.50% ก่อนหน้าที่เฟดจะประชุมกันในปลายเดือนนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีก
จอห์น ไคเรียคูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอลกล่าวว่า "การที่เฟดใช้ยาแรงด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินแม้ทำให้ดอลลาร์อ่อนตัวลง แต่ก็ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากยังไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจเสียทีเดียว เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ และยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง"
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 05.40 น. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ 106.515 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 105.90 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.4625 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4591 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนนี้ ส่วนเงินปอนด์สเตอริงแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.9554 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับระดับ 1.9538 ดอลลาร์ต่อปอนด์
"เงินสกุลที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ เช่น เงินเยนและเงินฟรังสวิส มีแนวโน้มว่าจะยังเป็นที่สนใจของนักลงทุน ขณะที่เงินสกุลที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงอย่างเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ยังคงเผชิญแรงกดดันจากความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอยู่" นายไคเรียคูพูลอสกล่าวเสริม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--