ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นหดตัวลง 20.9% ในเดือนธ.ค. หลังราคาน้ำมันพุ่ง

          กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นหดตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนธ.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้กำไรจากการนำเข้าและส่งออกลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว
          ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าในเดือนธ.ค.ลดลงกว่า 20.9% เหลือ 8.7787 แสนล้านเยนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งน้อยกว่าที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ที่ 9.269 แสนล้านเยน
          ส่วนยอดการนำเข้ามีการขยายตัวกว่า 12.1% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.559 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 54.6% แตะระดับสูงสุดที่ 90.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบมีการขยายตัวกว่า 49.2% ส่งผลให้ยอดการนำเข้ารวมขยายตัว 8.4% ส่วนยอดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทะยานกว่า 28.6% ส่งผลให้ยอดนำเข้ารวมขยายตัวอีก 1.2% ด้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ มีการขยายตัวกว่า 37.4% ส่งผลให้ยอดนำเข้ารวมขยายตัวอีก 1.0% 
          มูลค่าการส่งออกมีการขยายตัวในอัตราปกติที่ 6.9% เป็น 7.437 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการขยายตัวเดือนที่ 49 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกรถยนต์และอุปกรณ์สื่อสาร      
          อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกไปสหรัฐลดลง 4.5% นับเป็นครั้งแรกที่การส่งออกไปยังสหรัฐหดตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากที่เคยหดตัวลงกว่า 14 เดือนติดต่อกันจนถึงเดือนก.พ.2547 โดยยอดส่งออกรถจักรยานยนต์ไปยังสหรัฐร่วงลงกว่า 40.1% ในขณะที่ยอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ลดลง 10.4% และยอดส่งออกอุปกรณ์ก่อสร้างลดลง 31.2%
          ด้านยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรปมีการขยายตัว 2.4% เป็นเดือนที่ 26 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกยานยนต์ที่ขยายตัวกว่า 10.0% และยอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ที่ขยายตัว 15.4%  
          ส่วนการส่งออกไปยังเอเชียมีการขยายตัว 8.2% เป็นเดือนที่ 70 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกอุปกรณ์สื่อสารที่มีการขยายตัวกว่า 309.2% โดยเฉพาะการส่งออกไปยังจีน
          การส่งออกไปยังจีนมีการขยายตัว 8.4% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกอุปกรณ์สื่อสารที่พุ่งทะยานกว่า 710.1% และยอดส่งออกยานยนต์ที่ทะยาน 64.1%               
          ในปี 2550 ยอดเกินดุลการค้าหักภาษีมีการขยายตัว 37% เป็น 10.82 ล้านล้านเยน นับเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในขณะที่ยอดส่งออกขยายตัว 11.6% เป็น 83.94 ล้านล้านเยน และยอดนำเข้าขยายตัว 8.6% เป็น 73.12 ล้านล้านเยน สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน