นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายกสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมไทย เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.......ได้มีการประชุมพิจารณาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.62 ที่ผ่านมานั้น ผู้ประกอบการเห็นด้วยกับการมี พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่เสนอให้มีการแก้ไขปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการซากฯ ให้มีประสิทธิผลเพียงพอในทางปฏิบัติ และสร้างความเป็นธรรมต่อผู้ผลิต
กลุ่มฯ ขอเสนอแนวทางในการแก้ไข พ.ร.บ.การจัดการซากฯ ดังนี้ ระยะเวลาที่จะบังคับใช้ใน พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ควรน้อยกว่า 2 ปี หลังจากหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบได้ประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของอนุบัญญัติเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ภาคเอกชนมีเวลาเตรียมการภายหลังจากได้ทราบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าขอบข่ายของผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินการตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังไม่ครอบคลุมทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดจำหน่ายผู้นำเข้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ประกอบการที่ให้บริการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ เป็นต้น และควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการร่าง พ.ร.บ.
นายกนิษฐ กล่าวต่อว่า การเริ่มต้นบังคับใช้กฎหมายเสนอให้บังคับใช้กับซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและสำนักงาน โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้เชิงเศรษฐศาสตร์หรือความคุ้มทุนในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ควบคุมจากข้อเสนอดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ ส.อ.ท.จะเสนอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากฯ โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติขยายเวลาการพิจารณาเป็นครั้งที่ 1 ออกไปอีก 45 วัน เพื่อพิจารณาทบทวนเนื้อหาใน พ.ร.บ.การจัดการซากฯ ดังกล่าว ให้มีกลไกการจัดการซากฯ ที่เหมาะสมเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และสามารถปฏิบัติได้จริง รวมทั้งป้องกันผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นของนักลงทุนบีโอไอปัจจุบัน