นักวิชาการในโผรมช.คลังแนะแก้ศก. ลดดบ.แรง-ทำบาทอ่อน-กู้บาทสร้างรถไฟฟ้า

          นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะได้รบทาบทามให้เข้ามารับตำแหน่ง รมช.คลัง ในรัฐบาลชุดใหม่ เสนอแนะทางออกในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ ว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างแรงโดยไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบกับเงินเฟ้อ เพราะประเทศไทยขณะนี้ไม่ได้มีปัญหาเงินเฟ้อ 
          สำหรับอัตราดอกเบี้ยควรทยอยลดให้เหลือเพียง 2% ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง เนื่องจากมองว่าเงินบาทในปัจจุบันแข็งค่าเกินไป ซึ่งระดับที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 35 บาท/ดอลลาร์
          "ดอกเบี้ยเป็นมาตรการเพิ่มสภาพคล่องโดยรวม ให้เหลือ 2% เป็นเป้าหมายที่ผมคิด รีบลงให้เร็ว ผมไม่ได้กลัวเงินเฟ้อ...ทำเงินบาทให้อ่อนค่าลง 2-3 บาท 33 บาท/ดอลลาร์ มันไม่ไหว ควรเป็น 35 บาท มันจะได้มีอีก 3 แสนล้านเข้ามาในชาติ" นายสุชาติ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
          นอกจากการลดดอกเบี้ยและทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงแล้ว นายสุชาติ ยังเห็นว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ควรจะตั้งกองทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนกลับเข้ามาใหม่จากที่ถูกยุบไปก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นควรใส่เม็ดเงินเพิ่มเติมแก่กองทุนหมู่บ้านมากให้มากขึ้น เพื่อช่วยสร้างอำนาจซื้อภายในประเทศ รวมถึงการเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และถ้าเป็นไปได้ควรจะกู้เป็นเงินบาทเพื่อมาลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดแรงกดดันในเรื่องค่าเงินบาทลงได้
          "การสร้างรถไฟฟ้าก็ได้ แต่ส่วนหนึ่งของเงินที่ซื้อรถไฟฟ้ามันไปต่างประเทศ มันไม่ได้มาฟื้นการผลิตในชาติ วิธีการคือ กู้เงินบาทให้หมด แล้วเอาเงินบาทที่จะซื้อรถไฟฟ้าจากต่างประเทศไปแลกเงินสำรองที่แบงก์ชาติ" นายสุชาติ กล่าว
          นายสุชาติ กล่าวว่า หากรัฐบาลดำเนินการในสิ่งเหล่านี้ คือ การลดดอกเบี้ยนโยบายในระดับแรง, ทำเงินบาทให้อ่อนค่าลง, เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน และเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโดยกู้เงินบาทมาใช้ในการก่อสร้าง ก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของไทยยังสามารถขยายตัวได้สวนกระแสเศรษฐกิจของประเทศอื่นที่ต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ