ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีกรุงนิวยอร์กและผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในนามผู้สมัครอิสระ ได้แสดงความเห็นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังเจรจากันอยู่ในขณะนี้นั้นเป็น "มาตรการเศรษฐกิจของคนสายตาสั้น" พร้อมกับแนะนำให้รัฐบาลมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่กำลังประสบปัญหาในเวลานี้
"กลุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านในประเทศของเราไม่สามารถกู้เงินได้นับตั้งแต่มีการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการปล่อยสินเชื่อ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.50 แสนล้านดอลลาร์ที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังถกเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ยังไม่มากพอที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐได้" บลูมเบิร์กกล่าว
"มีปัญหาเร่งด่วนอย่างหนึ่งที่ต้องเร่งแก้ไขก็คือ เราไม่ควรมีความเห็นที่แตกแยกกันมากจนเกินไป เพราะขณะนี้สหรัฐกำลังเผชิญกับตัวเลขขาดดุลที่มหาศาลอยู่แล้ว ถ้าเราใช้จ่ายเงินออกไปมากมายในตอนนี้ เราจะไม่มีเงินสำรองคงคลังเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน" เขากล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะนี้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังเจรจากันเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการลดหย่อนภาษีที่ต้องใช้งบประมาณสูงเท่ากับในปี 2544 และคาดว่างบประมาณโดยรวมที่ต้องใช้ในมาตรฐานนี้จะสูงกว่างบประมาณรายจ่ายในปีที่แล้วถึง 2 เท่า
ทั้งนี้ บลูมเบิร์กกล่าวว่า "เป้าหมายแรกที่รัฐบาลสหรัฐควรทำคือ ยุติการซ้ำเติมอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย และหันมาใส่ใจว่าครอบครัวใดกำลังจะสูญเสียบ้านไป อย่างน้อยรัฐบาลต้องจุนเจือให้ทุกครัวเรือนที่มีบ้านอยู่ นี่เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดที่จะต้องทำในเวลานี้"
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นและใส่ใจในเรื่องความทุกข์ยากของผู้อยู่อาศัย ทำให้ผู้ประกอบการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐสนับสนุนให้นายบลูมเบิร์กลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เพราะเชื่อว่าบลูมเบิร์กมีจุดขายที่แข็งแกร่งพอที่จะนำพาเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤติในขณะนี้ไปได้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--