นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่นางดวงพร รอดพยาธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 15 ณ กรุงฮานอย และเมืองซาปา ประเทศเวียดนาม ระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมอาหารเวียดนาม และมีหน่วยงานภาครัฐของทั้งสองประเทศเข้าร่วมนั้น ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าวทั้งทางด้านการผลิตและการตลาด รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับสินค้าข้าวของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ สมาคมอาหารเวียดนามคาดการณ์ว่าในปี 2562 จะส่งออกข้าวอยู่ที่ 6 ล้านตัน ลดลงจากปี 2561 ที่มีการส่งออกข้าวอยู่ที่ 6.16 ล้านตัน และรัฐบาลเวียดนามได้ปรับปรุงขั้นตอนการขออนุญาตส่งออกข้าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ส่งออกข้าว รวมทั้งได้มีการพัฒนาพันธุ์ข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น ในขณะที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยคาดว่าในปี 2562 จะมีการส่งออกข้าวที่ 9.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 2561 ที่มีการส่งออกข้าวอยู่ที่ 11.09 ล้านตัน
"การส่งออกข้าวไทยที่ลดลง เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อการแข่งขันด้านราคาส่งออกข้าว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติของรัฐบาลอินเดีย โดยให้เงินอุดหนุนเป็นแรงจูงใจแก่ผู้ประกอบการในอัตรา 5% ของมูลค่าส่งออกข้าว เป็นระยะเวลา 4 เดือน ระหว่างวันที่ 26 พ.ย.61 - 25 มี.ค.62 ทำให้อินเดียได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคา และการที่รัฐบาลจีนได้ระบายข้าวในสต็อกไปยังตลาดแอฟริกาปริมาณมาก รวมทั้งนโยบายนำเข้าข้าวของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อาทิ ฟิลิปปินส์ ได้เปิดตลาดนำเข้าข้าวแบบเสรีมากขึ้น ส่งผลให้มีการแข่งขันส่งออกข้าวไปยังตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น" นายอดุลย์ระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวไทย ได้แก่ การขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) กับรัฐบาลจีน และปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจก่อให้เกิดความแห้งแล้งในภูมิภาคอเมริกาใต้ และออสเตรเลีย
อธิบดีกรมการต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย-เวียดนาม ถือเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญของโลก และยังเป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกด้านการผลิต สถานการณ์การค้า และหารือแนวทางแก้ไขอุปสรรคทางการค้าข้าวร่วมกัน
"ภาครัฐ พร้อมสนับสนุนการรวมกลุ่มและความร่วมมือทางการค้าข้าวของภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าข้าว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยรักษาระดับราคาข้าวให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น" นายอดุลย์กล่าว