นายชูวงศ์ ตั้งคุณสมบัติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลหารือกับเอกอัครราชทูตและผู้แทนระดับสูงของสถานทูตในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ จำนวน 5 ประเทศ ประกอบด้วยปากีสถาน, สาธารณรัฐคาซัคสถาน, สาธารณรัฐไนจีเรีย, สาธารณรัฐซูดาน และสาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทยว่า บีโอไอได้รับความร่วมมืออย่างดีในการสนับสนุนนักธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเอกอัครราชทูตและกงสุลกิตติมศักดิ์ที่บีโอไอเข้าพบต่างยืนยันจะให้ความช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ของแต่ละประเทศ เพื่อสนับสนุนบทบาทการส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศของบีโอไออย่างเต็มที่
"กองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศได้หารือกับบรรดาเอกอัครราชทูตในเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง เศรษฐกิจ โอกาสด้านการค้าและการลงทุน อุตสาหกรรมเป้าหมายที่เหมาะกับนักธุรกิจไทย ข้อมูลทำเลเขตที่ตั้งที่สะดวกต่อการลงทุน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในแต่ละประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้ข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้อง ง่ายต่อการนำไปประกอบการตัดสินใจลงทุนในกลุ่มพื้นที่ประเทศตลาดใหม่ต่อไป" นายชูวงศ์ กล่าว
โดยประเทศปากีสถานมีเป้าหมายส่งเสริมการลงทุนไทยในอุตสาหกรรม พลังงาน เหมืองแร่ อาหารทะเลแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ประเทศคาซัคสถานต้องการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนยาง กระจก เกษตรแปรรูป เหมืองแร่ ปิโตรเคมี ประเทศซูดานต้องการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมประมงและอาหารแปรรูป ประเทศไนจีเรียต้องการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตร อาหารแปรรูป ทำเหมืองพลอย พลังงาน และประเทศกานาต้องการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เกษตร เป็นต้น
"ในปีนี้บีโอไอมีแผนการจัดกิจกรรม 2 ส่วน ส่วนแรกคือการไปศึกษาหาข้อมูลเชิงลึกจากภาคเอกชน และภาครัฐในประเทศนั้นๆ ซึ่งปีนี้จะจัดไป 4 ประเทศ คือ ปากีสถาน คาซัคสถาน ไนจีเรีย กานา ส่วนที่สองคือการจัดกิจกรรมพานักลงทุนไทยที่ได้รับการอบรมในหลักสูตร TOISC ไปศึกษาดูงานและหาลู่ทางการลงทุนที่ประเทศซูดาน" นายชูวงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่บีโอไอได้จัดตั้งกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2556 ก็ได้จัดกิจกรรมที่สำคัญเพื่อศึกษาลู่ทางการลงทุนในต่างประเทศมากกว่า 120 ครั้ง ใน 32 ประเทศ ครอบคลุมภูมิภาค CLMVI เอเชียกลาง เอเชียใต้ และทวีปแอฟริกา และได้จัดกิจกรรมอบรมนักลงทุนไทยหน้าใหม่ภายใต้โปรแกรม TOISC เพื่อสร้างความพร้อมสำหรับการลงทุนในต่างประเทศและยกระดับผู้ประกอบการไทยเป็นจำนวนทั้งสิ้น 15 รุ่น มากกว่า 500 ราย