"ประสาร"คาดกนง.ปรับดอกเบี้ยลงตามเฟด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 25, 2008 10:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)กล่าวว่า การประกาศปรับลดดอกเบี้ยลง 0.75% ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ต้องนำมาใช้ในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยเพื่อให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ กนง.ต้องพิจารณาเช่นกัน
"ตอนนี้ถ้าเกิดเขา(สหรัฐ)ลดเยอะๆ แล้วดอกเบี้ยเราสูงกว่าเขาขึ้นมา มันก็ไม่สอดคล้องความเป็นจริง ตอนนี้ตลาดคาดการณ์มากขึ้นว่า ถ้าเฟดลดเยอะเราเองก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้อง ซึ่งคงจะสร้างความยุ่งยากใจให้ กนง.ถ้าเงินเฟ้อขึ้นมาเยอะ ก็เป็นหน้าที่ที่เขาต้องคอยดูแลด้วย" นายประสาร ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเช้านี้
อนึ่ง การประชุม กนง.ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 27 ก.พ.51 ซึ่งการประชุม กนง.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.51 กนง.ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.25%
ส่วนปัญหาซับไพรม์ของสหรัฐที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกรวมทั้งไทยนั้น นายประสาร กล่าวว่า การใช้นโยบายการเงินมาแก้ปัญหาในขณะนี้ค่อนข้างมีขีดจำกัด ดังนั้น ทางออกที่พอจะช่วยได้ในระยะสั้นนี้คือการเลือกใช้นโยบายการคลังที่เหมาะสม ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นของภาคเอกชนให้ฟื้นกลับคืนมาได้
นายประสาร ยังมองว่าปัจจุบันนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาเหมาะสมที่จะยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์โลกยังมีความผันผวน ดังนั้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการยกเลิกมาตรการดังกล่าวน่าจะอยู่ในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากได้เห็นความชัดเจนของภาวะทางเศรษฐกิจจากรอบด้านมาแล้ว
"ช่วงเวลานี้ไม่ใช่จังหวะเวลาที่เหมาะ เพราะสถานการณ์โลกค่อนข้างผันผวน ดอลลาร์อ่อนตัวลงมาค่อนข้างมาก ประกอบกับดอกเบี้ยในประเทศถ้ายืนอยู่สูงกว่าเขา(สหรัฐ)แล้วไปเลิกมาตรการนั้นก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติม ทำให้เงินไหลเข้า และบาทจะแข็งอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าถ้าค่อนไปทางปลายปี ให้เหตุการณ์สงบขึ้นบ้างจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกว่า ปีนี้ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของเราอาจจะไม่เกินดุลมากนัก" นายประสาร กล่าว
นายประสาร มองว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยคงไม่ประสบปัญหารุนแรงตลอดทั้งปีอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ โดยอาจจะเป็นเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไปแล้วสถานการณ์จะเริ่มนิ่งขึ้น
"คิดว่าไม่เลวร้ายขนาดนั้น ครึ่งปีแรกอาจจะลำบากหน่อย แต่ว่าครึ่งปีหลังเหตุการณ์ต่างๆ น่าจะชัดเจนขึ้น ก็ไม่เชิงว่าจะเป็นความชัดเจนในทางบวก แต่คงไม่ผันแปรอย่างฮวบฮาบ เหมือนอย่างที่เราเห็นในปีที่แล้วกับช่วงต้นปีนี้" นายประสาร ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ