มอร์แกน สแตนลีย์คาดเศรษฐกิจจีนปีนี้มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะซอฟท์แลนดิ้ง

          นายหวัง ชิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะค่อยๆชะลอตัวลงในปีนี้ หรือที่เรียกว่า ซอฟท์แลนดิ้ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกของจีนที่ขยายตัวในระดับปานกลางอันเนื่องมาจากความต้องการในต่างประเทศอ่อนตัวลง
          สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ว่า GDP จีนปี 2550 ขยายตัว 11.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 3.43 ล้านล้านดอลลาร์ และดัชนี CPI ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 ปีที่ 4.8%
          เมื่อเดือนธ.ค.เพียงเดือนเดียว CPI จีนขยายตัว 6.5% ต่ำกว่าสถิติการขยายตัวที่สูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.ที่ 6.9% แต่มีสถิติเทียบเท่ากับสถิติเดือนส.ค.และต.ค.
          สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวังกล่าวว่า สถิติของสำนักงานสถิติฯจีนไม่ได้แตกต่างไปจากที่มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ไว้เท่าไรนัก แม้ว่า CPI จะปรับตัวลงเล็กน้อยในเดือนธ.ค. และจากสถิติเดือนพ.ย.จีนยังคงมีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ จีนมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจะอยู่ในภาวะซอฟท์แลนดิ้งจากอัตราการขยายตัวด้านการส่งออกและการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะชะลอตัวลง
          สถิติของสำนักงานสถิติฯชี้ว่า อัตราการขยายตัวของการส่งออกของจีนปรับตัวลง 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2550 โดยปริมาณการส่งออกโดยรวมอยู่ที่ 1.218 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะยังขยายตัวสูงกว่าปีก่อนหน้า 25.7%
          ภายใต้แนวโน้มที่จะเกิดภาวะซอฟท์แลนดิ้งนี้ นายหวังคาดว่า การขยายตัวของ GDP จีน จะลดลงสู่ระดับ 10% ในปี 2551 และคาดว่า CPI จะลดลงเหลือ 4% แม้ว่าโลกจะวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ เขาคิดว่าไม่ใช่สิ่งเลวร้ายสำหรับจีนที่จะอยู่ในภาวะซอฟท์แลนดิ้ง