นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานสลากฯ ได้ออกสลากรวมชุดแบบคละเลข โดยจำหน่ายให้เฉพาะผู้ค้ารายย่อยที่สั่งซื้อและจองสลากผ่านระบบ จำนวน 57 ล้านใบ เพื่อแก้ปัญหาสลากฯ ราคาแพงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าจำนวนผู้ขายสลากจองมีจำนวนน้อยลง และสามารถดึงผู้ค้าสลากตัวจริงเข้าสู่ระบบมากขึ้น ขณะที่ปริมาณการรวมชุดสลากใหญ่ 5-10 ใบมีจำนวนลดลง เนื่องจากยี่ปั๊วรวมชุดสลากฯ ได้ยากขึ้น เพราะมีระยะเวลารวมชุดน้อยลง
แต่ทั้งนี้ ยอมรับว่ายังมีการขายสลากฯ เกินราคาอยู่ โดยสาเหตุหลักมาจากเลขดังในแต่ละงวด ประกอบกับผู้ค้ากลุ่มนิติบุคคล องค์กรการกุศลที่เป็นผู้ได้รับการจัดสรรโควตาจำนวน 35 ล้านใบ ยังคงนำสลากที่ได้ไปรวมชุด 5-10 ใบอยู่ ดังนั้น หลังจากนี้จะลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบผู้ค้ารายย่อยที่ได้สลากรวมชุดขายเกินราคาจะตัดสิทธิการจำหน่ายสลากทันที
นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า สำนักงานสลากฯ เตรียมประเมินผลการทำสลากรวมชุดแบบคละเลข หลังจากครบกำหนด 3 เดือนแล้ว หากยังพบว่ามีการจำหน่ายสลากเกินราคา ก็พร้อมที่จะเสนอคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ ให้จัดทำสลากรวมชุดจำหน่ายเองทั้งระบบ จำนวน 90 ล้านใบ
ส่วนการจะเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น หวยออนไลน์, LOTTO จำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่น หรือผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อแก้ปัญหาสลากแพงนั้น โฆษกสำนักงานสลากฯ ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้หลัง พ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว แต่ทั้งนี้ การจะดำเนินการใดๆ ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ในภาคสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับและดำเนินการอย่างเหมาะสมก่อน