นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ว่า ได้มอบหมายให้ กทท.เร่งรัดผลักดัน 3 โครงการที่สำคัญ ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ECC) ให้จบตามเป้าหมาย ซึ่งนอกจากท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 แล้ว ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่คาดว่าจะได้ข้อยุติในวันที่ 19 มี.ค.นี้
สำหรับ 3 โครงการสำคัญ คือ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 3 ซึ่งจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอปลายเดือน มี.ค.และเชื่อว่าจะรู้ผลผู้ชนะประมูลในเดือน เม.ย.นี้แน่นอน
นอกจากนั้น ยังมีโครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (Smart Port) และโครงการพัฒนาเพื่อการอยู่อาศัยให้เป็น Smart Community ซึ่งท่าเรือกรุงเทพมีจุดเด่น เพราะที่ตั้งอยู่ในจุดที่มีความเจริญสูง ที่ดินมีมูลค่าสูง พื้นที่หน้าท่ามีน้ำลึกสามารถให้เรือขนาดใหญ่จอดเทียบท่าได้ และมีศักยภาพในการพัฒนาทั้งการค้า การท่องเที่ยว เชิงพาณิชย์
นายสมคิด กล่าวว่า ได้กำชับว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับชุมชนที่อยู่เดิม ต้องออกแบบไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ต้องให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ฝ่ายบริหารต้องเข้าไปพูดคุย ต้องยกระดับที่อยู่อาศัย อาชีพ หรือมีสวัสดิการบางอย่างให้กับคนในชุมชน และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่มาก เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน และหากโครงการสำเร็จประเทศจะได้ประโยชน์สูงมาก นอกจากนี้ได้เร่งรัดให้ปรับแผนก่อสร้างเร็วขึ้นจากปี 64 เป็นปี 63 ด้วย
ขณะที่โครงการพัฒนาท่าเรือระนอง ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญ หากขยายศักยภาพ และมีความทันสมัย รวมถึงเชื่อมโยงกับรถไฟทางคู่เส้นทาง ชุมพร-หลังสวนได้ จะทำให้การขนส่งสินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อส่งออกทางทะเลฝั่งอันดามันไปยังเอเชียใต้ ทั้งอินเดีย บังลาเทศ ศรีลังกา มีความสะดวกขึ้นมาก รวมทั้งหากพัฒนาท่าเรือระนองเชื่อมโยงกับ EEC ผ่านอ่าวไทยได้ก็จะยิ่งส่งผลดี เพราะขณะนี้จีนกำลังมองทางออกทะเลอันดามัน ขณะที่ญี่ปุ่นที่เคยคาดหวังกับท่าเรือทวายแต่ปัจจุบันก็ยังไม่ชัดเจน อาจเปลี่ยนโฟกัสมาที่ท่าเรือระนองแทน
"การท่าเรือ มีทรัพย์สินมหาศาล ที่ดินคลองเตยกว่า 2พันไร่ ตารางวาละ 4 แสนบาท ไม่ต้องขายมูลค่ามีในตัว จะทำโครงการไม่ต้องของบประมาณจากรัฐบาล แต่ละโครงการมีมูลค่าในตัวเอง มีโอกาสที่ดี หากทำแผนพัฒนาที่ดีและรวดเร็ว ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน อยากให้ตั้งทีมงานแยกแต่ละโครงการเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานได้รวดเร็ว และโปร่งใส ไม่อยากให้ชะลอโครงการเพราะรอรัฐบาลใหม่"นายสมคิด กล่าว
เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ กทท.กล่าวว่า การประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มีเอกชนซื้อซอง 35 ราย โดยกำหนดยื่นซองในวันที่ 29 มี.ค.ซึ่งจะเปิดซองข้อเสนอด้านคุณสมบัติ (ซอง1) ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และสรุปผลคัดเลือกในวันที่ 11 เม.ย. และ เสนอคณะกรรมการ EEC และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในปลายเดือน เม.ย.62 คาดว่าจะมีเอกชนยื่นซองอย่างน้อย 2 กลุ่ม ขณะที่ช่วงแรก กทท.จะลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 2 ปี ส่วนเอกชนผู้รับสัมปทานจะเข้าพัฒนาต่อและเปิดให้บริการได้ในปี 66
ด้านโครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพพื้นที่ 2,353 ไร่ ในส่วนของการพัฒนา Smart Port ขณะนี้ได้ลงนามจ้างที่ปรึกษาวงเงิน 42.8 ล้านบาท ส่วนโครงการพัฒนาเพื่อการอยู่อาศัย Smart Community มูลค่าโครงการ 14,885 ล้านบาท จะเร่งสำรวจประชากร และทำความเข้าใจ รวมถึงจ้างออกแบบและทำรายงาน EIA ซึ่งการจัดที่อยู่อาศัยแนวสูงจะทำให้ท่าเรือมีพื้นที่คืนประมาณ 197 ไร่ มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาทที่สามารถนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้
ขณะเดียวกัน กทท.อยู่ระหว่างศึกษาการจัดตั้งบริษัทลูก บริหารสินทรัพย์ ในรายละเอียดของการช้พื้นที่ ข้อกฎหมาย และการเงิน คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ในเดือน ต.ค.62
สำหรับผลการดำเนินงานของ กทท.ในปี 61 มีรายได้ 15,320 ล้านบาท มีรายจ่าย 9,093 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,227 ล้านบาท มีปริมาณตู้สินค้า 9.513 ล้านทีอียู จัดส่งรายได้เข้ารัฐ 4,760 ล้านบาท หรือ 76% ส่วนปี 62 (ต.ค.61-28 ก.พ.62) มีรายได้ 6,222 ล้านบาท มีรายจ่าย 3,596 ล้านบาท คาดการณ์ปริมาณตู้สินค้าทั้งปีที่ 9.837 ล้านทีอียู