สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า รัฐบาลของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียแปซิฟิคจะเผชิญกับความท้าทายบางประการจากผลกระทบระลอกแรกของเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว และคาดว่าผลกระทบรอบที่ 2 อาจจะกินระยะเวลายาวนานหรืออาจเพิ่มแรงกดดันมากยิ่งขึ้น
รายงานของ S&P ได้วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานด้านเครดิตของรัฐบาลประเทศต่างๆในภูมิภาคว่า ความต้องการภายในประเทศและการค้าระหว่างกันภายในภูมิภาคจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากความต้องการนำเข้าสินค้าของสหรัฐที่ลดลง นอกจากนี้ เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคยังจะต้องรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากราคาอาหารและพลังงานที่ถีบตัวสูงขึ้น สภาพคล่องที่ตึงตัวทั่วโลก รวมทั้งความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของยุโรปจะชะลอตัวลง
S&P ชี้ว่า สภาพเศรษฐกิจโลกและการเงินที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในขณะนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการยกระดับเครดิตของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในปีนี้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคน่าจะรับมือกับปัจจัยลบต่างๆได้ เนื่องจากภูมิภาคนี้มีแนวโน้มการขยายตัวที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง รวมทั้งความสามารถในการดำเนินการด้านนโยบายการเงินที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบ และยังมีปัจจัยหนุนจากประเทศผู้บริจาคที่มีให้กับประเทศที่มีการพัฒนาในระดับต่ำ
S&P ชี้ว่า ความเสี่ยงสูงสุดไม่ได้มาจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ แต่มาจากการใช้นโยบายที่ผิดขั้นตอนของรัฐบาลเมื่อเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐหรือการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--