นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เดินหน้าตรวจสอบผู้ผลิตสินค้าตะปูส่งออกไปสหรัฐฯ เพื่อป้องกันนำสินค้าจากที่อื่นมาแอบอ้างมีถิ่นกำเนิดจากไทย โดยยังไม่พบการนำเข้าสินค้าตะปูสำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาสวมถิ่นกำเนิดสินค้าไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสหรัฐฯ และส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย
ทั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ไปตรวจสอบผู้ผลิตที่ส่งออกสินค้าตะปูในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งได้ขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าจากกรมฯ เพื่อใช้ในการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ โดยพบว่าบริษัททั้งสองรายได้นำเข้าลวดเหล็กจากต่างประเทศมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งมีปริมาณการนำเข้าลวดเหล็ก และปริมาณการส่งออกสินค้าตะปูสอดคล้องกับกำลังการผลิตของเครื่องจักรที่ใช้ ทำให้บริษัทผลิตสินค้าได้เกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้าเพราะมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบลวดเหล็กพิกัดฯ 7227.90 เป็นสินค้าสำเร็จรูปพิกัดฯ 7317.00
"กรมฯ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบย้อนหลังหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ออกให้กับผู้ส่งออกสินค้าที่สหรัฐฯ กำหนดมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกับประเทศต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้มีการแอบอ้างใช้หนังสือรับรองฯ ดังกล่าวกับสินค้าที่ไม่ได้ถิ่นกำเนิดไทย ซึ่งหากไทยถูกสหรัฐฯ ไต่สวนมาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงการทุ่มตลาด (Circumvention) กับผู้ส่งออกที่แอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทยจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยโดยรวม เนื่องจากผู้นำเข้าในสหรัฐฯ จะชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากไทย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบ จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ เองก็ชมเชยไทยในเรื่องนี้ และยังส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าตะปูไทยไปสหรัฐฯ ด้วย" นายอดุลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า กรมฯ ยังคงเดินหน้าตรวจสอบกระบวนการผลิต โดยเฉพาะสินค้าที่ถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า เพื่อพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์กฎถิ่นกำเนิดสินค้าต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการค้าของไทยในอนาคต
ในปี 2559-2561 ไทยส่งออกตะปูไปสหรัฐฯ มีมูลค่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 13.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นอัตรา 100% และ 466.67% ตามลำดับ โดยการส่งออกตะปูที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากมีการย้ายฐานการลงทุนมาที่ไทยมากขึ้น หลังจากการเกิดสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ