นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) อยู่ระหว่างศึกษาพื้นที่ที่เซาเทิร์นซีบอร์ด เพราะมีความเหมาะสมในการลงทุน เนื่องจากสามารถก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกได้ โครงการที่จะลงทุนสามารถดำเนินการได้อย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ อีกทั้งยังได้เปรียบเรื่องวัตถุดิบ และมีศักยภาพในการแข่งขัน ขณะนี้รอทางสภาพัฒน์ศึกษาเสร็จก่อน
เนื่องจากโครงการปิโตรเคมีระยะที่ 3 ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดสามารถขยายโครงการในอุตสาหกรรมหนัก เช่น ปิโตรเคมี โรงกลั่น ได้อีกเพียง 7-8 ปีเท่านั้นจะเต็มพื้นที่แล้ว จึงจำเป็นต้องหาพื้นที่ใหม่
สำหรับความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีระยะที่ 3 ว่า ผู้ประกอบการรายใดที่ผ่านการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) แล้วสามารถดำเนินโครงการได้ เพราะนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีการจัดการเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว
อนึ่ง โครงการปิโตรเคมีระยะที่ 3 มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ โรงโอเลฟินส์ ขนาด 1 ล้านตัน/ปี ของ บริษัท พีทีที โพลีเอทิลีน จำกัด (PTTPE) และโครงการขยายไปสู่ปิโตรเคมีขั้นปลายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ด้วย รวมถึงโครงการโรงโอเลฟินส์ แห่งที่ 2 ของเครือซิเมนต์ไทย(SCC)
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/รัชดา/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--