นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 2 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ก.พ.) มีมูลค่ารวม 219,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.92% เป็นการส่งออก 121,273 ล้านบาท ลดลง 1.94% และการนำเข้า 98,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.69% เกินดุลการค้า 23,061.23 ล้านบาท โดยแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 178,876 ล้านบาท ลดลง 1.65% เป็นการส่งออก 101,326.75 ล้านบาท ลดลง 3.63% นำเข้า 77,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.06% เกินดุลการค้า 23,777 ล้านบาท ส่วนการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มีมูลค่า 40,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.06% เป็นการส่งออก 19,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.67% นำเข้า 20,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ขาดดุลการค้า 715 ล้านบาท
สำหรับการค้าชายแดนนั้น มาเลเซียเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่งของไทย มีมูลค่า 88,674 ล้านบาท ลดลง 2.22% เป็นการส่งออก 42,500 ล้านบาท ลดลง 10.57% นำเข้า 46,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.96% รองลงมา คือ สปป.ลาว มูลค่า 31,740 ล้านบาท เมียนมา มูลค่า 31,183 ล้านบาท และกัมพูชา มูลค่า 27,277 ล้านบาท ขณะที่การค้าผ่านแดน จีนตอนใต้เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย มีมูลค่า 16,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.99% เป็นการส่งออก 6,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.17% นำเข้า 10,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.07% รองลงมา คือ เวียดนาม มูลค่า 12,858 ล้านบาท และสิงคโปร์ มูลค่า 10,937 ล้านบาท
นายอดุลย์ กล่าวว่า กรมฯ ประเมินว่าการค้าชายแดนยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการที่ประเทศเพื่อนบ้านได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดย สปป.ลาว ได้ออกมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการค้าการลงทุน โดยได้ยกเลิกใบอนุญาตการนำเข้าวัสดุก่อสร้าง ในส่วนของเหล็ก และปูนซีเมนต์ ซึ่งช่วยลดขั้นตอน ระยะเวลา และภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการ หลังจากต้องเผชิญกับปัญหาอุทกภัย ทำให้ต้องเร่งฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2562
ขณะที่มาเลเซีย ได้หารือร่วมกับไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าชายแดนระหว่างกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องให้ทดลองเปิดด่านบูกิต กายู ฮิตัม–สะเดาตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 สำหรับการขนส่งสินค้า และมาเลเซียยังได้ก่อสร้าง IMT-GT Plaza ซึ่งเป็นศูนย์ธุรกิจภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT) ที่ Bukit Bunga ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย จะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2562 ทำให้เป็นปัจจัยเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว
ส่วนกัมพูชา ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเรียบร้อยแล้ว และพร้อมประชุมเพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้า ผลักดันการค้าชายแดนให้เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่เมียนมา ได้ทำพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ข้ามแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งทางบกในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East–West Economic Corridor) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ทำให้การขนส่งสินค้า การเดินทาง การท่องเที่ยว สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการที่กรมฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การเปิดตัวโครงการ YEN-D Season V (Young Entrepreneur Network Development Program) อย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วย โครงการ YEN-D Plus สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไทย-อินโดนีเซีย และไทย-มาเลเซีย และโครงการ YEN-D Frontier ให้ผู้ประกอบการชายแดนรุ่นใหม่ของไทยกับ CLMV ซึ่งจะจัด 3 ครั้ง ในจังหวัดตาก จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดนครพนม
รวมทั้งมีแผนจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในปลายเดือนเมษายนนี้ และที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2562 โดยคาดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจตามเมืองชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขยายตัวมากขึ้น
"กรมฯ เชื่อมั่นว่าในปี 2562 จะสามารถขยายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 1.6 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 15% อย่างแน่นอน" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุ