นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ได้นำผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ในการส่งเสริมของกรมฯ จำนวน 40 แบรนด์ แบ่งเป็น ธุรกิจเครื่องดื่ม 22 แบรนด์ ธุรกิจอาหาร 15 แบรนด์ และธุรกิจความงามและสปา 3 แบรนด์ เข้าร่วมนำเสนอสินค้าและเจรจาธุรกิจในงาน Thai Franchise & SME Expo 2019 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา นับเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนและผู้เข้าร่วมงานจะสามารถเจรจาซื้อ-ขายธุรกิจได้โดยตรงจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ และเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับความสนใจของตนเองเพื่อนำไปประกอบธุรกิจ
การนำผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมงาน Thai Franchise & SME Expo 2019 ในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่มีศักยภาพ สามารถขยายตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมเข้าร่วมเปิดตลาดในงานแสดงสินค้าระดับใหญ่ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปี 2562 นี้ กรมฯ กำหนดนำผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ เข้าร่วมงานทั้งหมด 3 งาน ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 งาน Thai Franchise & SME Expo 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2562, ครั้งที่ 2 งาน SMART SME Expo 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2562 ณ อิมแพคเมืองทองธานี และครั้งที่ 3 งาน Thailand Franchise and Business Opportunities 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 กรกฎาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา
"นับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้สนใจลงทุนและต้องการมีกิจการเป็นของตนเอง สามารถเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับความต้องการ พร้อมเจรจาซื้อขายธุรกิจได้โดยตรงจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมงานครั้งนี้กว่า 200 แบรนด์ เพื่อเกิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายธุรกิจ การสนับสนุนเงินทุน การต่อยอด และเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์สามารถขยายโอกาสทางธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม" นายวุฒิไกร กล่าว
ทั้งนี้ กรมฯ คาดว่าการนำผู้ประกอบการฯ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิจได้ราว 60 ล้านบาท
สำหรับงาน Thai Franchise & SME Expo 2019 นับเป็นครั้งที่ 3 ที่กรมฯ ได้นำผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ในการส่งเสริมเข้าร่วมงานฯ โดย ปี 2561 กรมฯ ได้นำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมงาน จำนวน 40 แบรนด์ มีการเจรจาธุรกิจ 1,981 คู่ และสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาได้ 15.3 ล้านบาท