นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 1/62 เท่ากับ 98 อยู่ในระดับใกล้เคียงปกติและใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้เมื่อไตรมาสก่อน แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากปลายปี 61 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อทรงตัวในระดับต่ำ และสถานการณ์ฝุ่นละอองยังคงรุนแรงในบางพื้นที่
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการเป็นกังวลมาจากเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม และ ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังซบเซาทำให้กำลังซื้อลดลง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนประเมินว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้นบ้างในไตรมาสนี้จากการเดินทางที่สะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำให้คาดว่าปีนี้จะมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยราว 40.64 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.17% จากปี 61 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.20 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.36% จากปี 61
สำหรับในไตรมาส 2/62 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.28 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.62% จากช่วงเดียวกันของปี 61 โดยเป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียน 2.66 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.31% นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก 4.03 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.07% และนักท่องเที่ยวจากยุโรป 1.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.60%
สทท.มีข้อเสนอให้ภาครัฐร่วมมือพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยลดมลพิษ และสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว, สนับสนุนภาคประชาชนและผู้ประกอบการในการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว, กำหนดมาตรการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว, ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม ประเพณีต่างๆ ในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับทราบ
ประธาน สทท. กล่าวว่า เฉพาะในเดือน ก.พ.62 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทย 3.57 ล้านคน เพิ่มขึ้น 0.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.92 แสนล้านบาท ลดลง 0.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าไตรมาส 1/62 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.92 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.92% จากไตรมาส 1/61
สำหรับสถานการณ์การเมืองในประเทศนั้น มองว่า ถ้าไม่ยืดเยื้อจนเกินไปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร การคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวในไตรมาส 2 และทั้งปีของปี 62 ยังไม่ได้รวมปัจจัยการเมืองเข้ามา ส่วนสถานการณ์การเมืองที่เกิดสูญญากาศในขณะนี้กังวลว่าจะเคลียร์กันไม่ลงตัว จนเกิดความแตกแยกสามัคคี
"กกต.ควรสรุปออกมาให้ชัดเจน ใครชนะ ใครแพ้ ไม่เป็นไร แต่อย่าทำให้คลุมเครือแบบนี้"นายชัยรัตน์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ดีทั้งคู่ แต่ต้องหาคนที่เข้าใจบริบทของการท่องเที่ยวเข้ามาดูแล เพราะการท่องเที่ยวของไทยไปต่อได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องการ คือ ผู้นำที่เข้าใจบริบทของการท่องเที่ยว เลือกคนที่ตรงกับลักษณะงานมาเป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อคลุมเครือแบบนี้นานเกินไป อาจทำให้การตัดสินใจลงทุนในระยะยาวของภาคเอกชนต้องชะลออกไป เพราะไม่แน่ใจในทิศทาง แต่เชื่อว่าโครงการใดที่ดีอยู่แล้ว เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดีก็ไม่ควรยกเลิก ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าต่าง ๆ แต่หากจะสร้างเส้นทางเพิ่มนั้น ก็ขอสนับสนุน
"ธุรกิจในวงการท่องเที่ยวยังคงต้องเดินหน้าต่อไป หยุดไม่ได้ เพราะท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าถ้าไม่มีอะไรรุนแรง ภาคการท่องเที่ยวไม่น่าจะได้รับความกระทบมากจากปัจจัยการเมือง" ประธาน สทท.กล่าว
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่า คือ สถานการณ์ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง แหล่งน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งภาครัฐต้องรีบแก้ไขหาวิธีการว่าจะจัดหาน้ำมาจากแหล่งใด เพื่อจะไปหล่อเลี้ยงแหล่งท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ซึ่งการท่องเที่ยวจำเป็นต้องอาศัยเรื่องนี้เป็นสำคัญ คือ ความสะดวกสบาย ดังนั้นน้ำ-ไฟ ต้องพร้อม
"ตอนนี้เราต้องรีบแก้ปัญหาต่าง ๆ ภายในประเทศ ทั้งภัยแล้ง ฝุ่นละออง และสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุด" นายชัยรัตน์ กล่าว