นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเรื่อง "ส.อ.ท.กับเศรษฐกิจไทย" ในงานพบสื่อว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาจะมีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไรก็ได้ แต่อย่าให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงตามมา เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และหากเกิดความยืดเยื้อในการจัดตั้งรัฐบาลอาจกระทบต่อการตัดสินใจในการลงทุนของทุนใหม่ๆ ประเภทคนจะลงทุน หรือกำลังคิดจะลงทุนโดยเฉพาะเงินลงทุนในโครงการใหญ่ๆ อาจจะชะลอออกไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์
"เราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะไม่ค่อยมีโครงการใหญ่ๆ เข้ามาบ่อยๆ ใครก็แล้วแต่ชนะ ต้องเร่งพลิกฟื้นอย่างรุนแรงให้ได้ พูดหรือรับปากอะไรไว้ ก็ให้ทำตามสัญญา และต้องกลับมาสู่จุดที่ลงตัว" นายสุพันธุ์ กล่าว
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ส่งผลกระทบทางจิตวิทยา ขณะที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเต็มรูปแบบอยู่ และยังมีมาตรา 44 ยังสามารถขับเคลื่อนอะไรต่อไปได้จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลทำได้ดีพอสมควร GDP ไต่ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4% ถ้าการเมืองไม่มีปัญหาจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไปได้ เพราะภาคเอกชนไทยเข้มแข็ง หลายบริษัทใหญ่ สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ถ้าไม่มีอะไรมา Effect ก็จะเดินต่อไปได้ แต่ถ้าอยากให้เดินเร็ว ภาครัฐก็ต้องสนับสนุนเรื่องกลไก และขจัดอุปสรรคทั้งหลาย เรื่องขั้นตอนระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ
ถ้าเจาะลึกปัญหาจริงๆ ที่มีปัญหากันอยู่ทุกวันนี้ คือเรื่องคอร์รัปชั่น ถ้าบ้านเราไม่มีปัญหาคอร์รัปชั่น เราจะเจริญแบบเข้มแข็งแน่นอน เพราะนโยบายของพรรคการเมืองทุกพรรคส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ดี แม้จะมีประชานิยมปลีกย่อยออกมา แต่นโยบายหลักเชื่อว่าทุกพรรคอยากให้คนรากหญ้า คนในประเทศมีรายได้ดีขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้นอยากให้ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ประชาชนอยู่ดีมีสุข แต่ที่ผ่านมาทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็นจำนำข้าว ประกันราคา ไทยเข้มแข็งก็มีปัญหา จนทำให้มีปัญหาการเมืองก็เพราะมีการคอร์รัปชั่น
"ส.อ.ท.อยากเห็นการหลีกคอร์รัปชั่น คือ เอกชนมีธรรมาภิบาล ซึ่งผมพยายามผลักดันเรื่องการทำบัญชีเดียวมาตลอดเพื่อให้เป็นตัวอย่างซึ่งจะทำให้ไม่มีคอร์รัปชั่น ไม่มีการจ่ายใต้โต๊ะ และเสนอให้ปรับลดขนาดระบบราชการให้เหลือ 60% ใน 20 ปี" นายสุพันธุ์ กล่าว
ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ได้จัดทำสมุดปกขาวเสร็จแล้วโดยจะมอบให้พรรคการเมืองและสื่อ เป็นความพยายามนำเสนอให้ใช้กลไกภาษีให้เป็นประโยชน์ เราเสนอแม้กระทั่งใครอบรม พัฒนาใครทำอะไร คนที่เสียภาษีก็ได้โอกาสที่จะหักค่าใช้จ่าย คนที่เลี่ยงภาษีก็จะไม่ได้ประโยชน์ ซึ่งขณะนี้ประเทศต้องการนวัตกรรมอย่างยิ่ง ถ้าให้เอกชนตั้งกองทุนนวัตกรรมเอง แล้วบิ๊กบราเธอร์บริจาคเข้ากองทุนได้หักภาษี ซึ่งกองทุนแบบนี้ผลักดันเอกชนไม่นาน หลายเรื่องเอกชนจะได้เดินหน้าได้เอง ไม่ต้องรอการจัดซื้อจัดจ้างที่มีขั้นตอนมากมาย
"ใครก็แล้วแต่เป็นรัฐบาล เอาเอกชนไปช่วย ให้เอกชนมองเรื่องเศรษฐกิจ รัฐก็ดูเรื่องความมั่นคง สังคมไป อยากเห็นอย่างเดียวคือไม่มีคอร์รัปชั่น อย่างยุคคุณทักษิณที่ตายเพราะติดคอรัปชั่น" นายสุพันธุ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ส.อ.ท.จะเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เพื่อให้มีเวทีที่เกี่ยวกับเอกชนมาวิเคราะห์รวบรวมว่าเรื่องไหนควรนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณา
"เมื่อก่อนกรรมการในชุดเศรษฐกิจทั้งหมด นายกฯ ไม่เคยลงมา มีแต่รองนายกฯ ลงมา แต่ว่ารัฐบาลนี้นายกฯ ลงมาเอง ทำให้เราได้สัมผัสนายกฯ อยู่เรื่อยๆ" นายสุพันธุ์ กล่าว