นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยถึงการดำเนินมาตรการหักบัญชีเงินเดือนลูกหนี้ กยศ. ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายปี 61 ที่ผ่านมา พบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยในกลุ่มข้าราชการและลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือนผ่านระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำของกรมบัญชีกลาง ซึ่งเริ่มหักตั้งแต่เดือน ธ.ค.61 เป็นต้นมา ประมาณ 1.65 แสนราย ได้รับชำระหนี้แล้วกว่า 240 ล้านบาท/เดือน และในเดือน ก.พ.62 กยศ.ได้หักเงินเดือนผู้กู้ยืมอีกกว่า 8 หมื่นราย ที่ทำงานอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนรายใหญ่ 20 แห่ง ผ่านระบบรับชำระเงินคืนของกรมสรรพากร ซึ่งได้รับเงินชำระหนี้กว่า 134 ล้านบาท
โดยคาดว่าปีนี้ จะหักบัญชีเงินเดือนลูกหนี้กลุ่มนี้ได้ 5,000 ล้านบาท และในปีนี้ กยศ. จะได้รับเงินชำระหนี้เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ทำให้สถิติการฟ้องร้องและบังคับคดีต่าง ๆ น่าจะลดลงจากหลักแสนรายต่อปี อาจลดลงเหลือหลักหมื่นราย และภายในไตรมาส 2 ปีนี้ กยศ. จะทยอยหักบัญชีเงินเดือนลูกหนี้เพิ่มอีก โดยตั้งเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 5 แสนราย คาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถเดินหน้าหักบัญชีเงินเดือนของลูกหนี้ได้ครบทั้งระบบ" ผู้จัดการ กยศ.กล่าว
นายชัยณรงค์ ยังกล่าวถึงการปล่อยกู้ให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา สำหรับปีการศึกษา 2562 ว่า จะเริ่มคำร้องรับตั้งแต่เดือน เม.ย.62 โดยได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับนักเรียน นักศึกษาทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ให้กู้ยืมได้ไมต่ำกว่า 6 แสนคน
ผู้จัดการ กยศ. ยังได้แจ้งเตือนลูกหนี้ กยศ.ที่ผิดนัดชำระหนี้กว่า 2 ล้านราย ให้มาเข้าร่วมมาตรการจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาชำระหนี้ปิดบัญชีเพิ่มเติม สำหรับผู้กู้ที่ผิดนัดชำระและต้องการปิดบัญชี จะได้รับสิทธิลดเบี้ยปรับ 85% ของเบี้ยปรับ ณ วันที่ชำระหนี้ปิดบัญชี โดยจะหมดเขตในสิ้นเดือน พ.ค.นี้
"หากมาหลังจากนั้น จะต้องเสียเบี้ยปรับเต็มจำนวน และ กยศ.จะไม่ขยายเวลาออกไปแล้ว ส่วนลูกหนี้ชั้นดีที่ไม่เคยผิดนัดชำระและต้องการปิดบัญชีเงินกู้ก่อนกำหนด จะได้รับสิทธิลดหย่อยเงินต้น 3%" ผู้จัดการ กยศ.ระบุ