นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.76/77 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.72/74 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับในช่วงเปิดตลาด โดยเป็นการเคลื่อนไหวตามทิศทางของค่าเงินหยวน ซึ่งแม้โทน ของสงครามการค้าจะเริ่มดีขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ จึงทำให้เงินหยวนปรับตัวอ่อนค่า
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.65 - 31.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.35/37 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.33/35 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1203/1206 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1204/1205 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,651.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด (+0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 41,912 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,246.22 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 62 ลงมาเหลือโต 3.7% จากเดิมที่ 4% เนื่องจากมอง
ว่าได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่มีแนวโน้มอ่อนแรงลง ตามผลกระทบการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าที่สำคัญของไทย แม้ว่าประเด็น
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้ก็ตาม แต่มองว่าก็ยังกระทบกับการส่งออกของไทย และทำให้
ต้องปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกปีนี้ลงเหลือ 3.2% จากเดิมที่ 4.5%
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.75% ตลอดทั้งปี 2562 เมื่อผนวกกับสภาพคล่อง
ของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ยังมีอยู่มาก และจังหวะการปล่อยสินเชื่อที่ยังค่อยเป็นค่อยไป ทำให้การแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร
พาณิชย์ยังไม่รุนแรง ส่วนทิศทางค่าเงินบาท คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20 - 31.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม
ยังคงเป็นปัจจัยในประเทศ ทั้งสถานการณ์การเมืองไทยและเศรษฐกิจไทย
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้ เหลือโตต่ำ
กว่า 5% เนื่องจากมีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดย สรท.หวังว่ารัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน
ประเทศให้ฟื้นตัว
- กระทรวงพาณิชย์ กำหนดธุรกิจเป้าหมายเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่อาจมีความเชื่อมโยงกับชาวต่างชาติในการใช้คนไทย
เป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีมาอย่างต่อเนื่อง จำนวน 5 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1. ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว 2.
ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ การถือครองอสังหาริมทรัพย์ 3. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร 4. ธุรกิจขนส่งสินค้า และ 5. ธุรกิจ
โฆษณา
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายตราสารหนี้เพื่อทำกำไร ซึ่งเป็น
ความเคลื่อนไหวทั่วไปที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีงบประมาณ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 353 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะ
ยาว ปิดที่ -0.070% เพิ่มขึ้น 0.015% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาล่วงหน้าพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง
0.22 จุด แตะ 152.94 จุด ในตลาดหุ้นโอซาก้า
- ธนาคารกลางออสเตรเลีย มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำจะช่วยสนับสนุน
การเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะขาลงนั้นมีเพิ่มขึ้น โดยธนาคารกลางออสเตรเลีย จะยังคงจับตา
สถานการณ์ต่างๆ ต่อไป เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายในอนาคต