IMF เตือนปัญหาสินเชื่อตึงตัวทั่วโลกอาจวิกฤติหนัก หากศก.สหรัฐเผชิญขาลง

          กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อทั่วโลกซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินนั้น จะรุนแรงมากขึ้นถ้าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ช่วงขาลงหรือเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆทรุดตัวลง
          "หลักฐานจากผลการสำรวจด้านการปล่อยกู้บ่งชี้ว่า สถาบันการเงินบางแห่งตั้งมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมาก วิกฤตการณ์สินเชื่อตึงตัวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในสหรัฐเท่านั้น แต่ยังแผ่วงกว้างไปถึงยุโรปด้วย ขณะที่สถาบันการเงินในภูมิภาคอื่นๆก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้ เราคาดว่าการตั้งสำรองหนี้สูญเนื่องจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์จะยังคงมีอยู่" IMF กล่าวในรายงาน"Global Financial Stability Report"
          รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า วิกฤตการณ์สินเชื่อในสหรัฐได้ลุกลามไปยังอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆนอกเหนือจากตลาดซับไพรม์ ขณะที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้ในตลาดซับไพรม์ปี 2550 พุ่งขึ้นรวดเร็วกว่าเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ และความน่าเชื่อถือของผู้บริโภคก็ถดถอยลงเช่นกัน ส่วนในยุโรปตะวันตกนั้น ภาวะชะลอตัวในตลาดสินเชื่อก็กำลังเกิดขึ้นเช่นกัน
          "ที่ผ่านมานั้น กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ฟื้นตัวขึ้นก็จริง แต่ประเทศเหล่านี้ก็กำลังเผชิญกับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า โดยตัวเลขเงินเฟ้อในตลาดบางแห่งปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 เนื่องจากการคาดการณที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าแต่ก่อน" รายงาน IMF ระบุ
          "ราคาหุ้นที่ร่วงลงเมื่อไม่นานมานี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดเกิดใหม่บางแห่งอาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ สิ่งแรกที่ธนาคารกลางควรทำอย่างเร่งด่วนคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าและเสริมสร้างสถาบันการเงินให้แข็งแกร่ง ด้วยการยอมเปิดเผยตัวเลขขาดทุนและเปิดเผยงบดุลอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งจัดหาสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน"  IMF กล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน