นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน ที่ จ.เชียงราย ที่ประชุมจะได้หารือร่วมกันถึงประเด็นความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยในส่วนของการเชื่อมโยงภาคการเงินระหว่างกันนั้น ประเทศไทยจะเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาระบบการชำระเงินร่วมกันในอาเซียน หรือ QR Code ASEAN ซึ่งจะเริ่มนำร่องในการใช้ภายในกลุ่มประเทศ CLMV ด้วยกันเองก่อน (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม)
โดยล่าสุด สปป.ลาว และกัมพูชาแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม รวมถึงพร้อมเพย์ที่ได้มีการเชื่อมโยงกับ pay now เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้นำมาเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาพร้อมเพย์ในอาเซียนต่อไป รวมถึงการเน้นความร่วมมือในเรื่องของ National Single Window เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างกันในอาเซียนให้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน จะได้หารือร่วมกันถึงฐานะการคลังของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยไทยยืนยันว่าสถานการณ์คลังของไทยยังมีความแข็งแกร่ง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย และอัตราการว่างงงานยังอยู่ในระดับต่ำ
โฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันใน จ.เชียงราย ตลอดจนจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือด้วยว่า จะไม่มีผลกระทบต่อการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน และการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน เนื่องจากผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศต่างๆ เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงปัญหาในระยะสั้นที่น่าจะได้รับการแก้ไขได้โดยใช้เวลาไม่นาน ดังนั้นโดยภาพรวมในระยะยาวแล้ว จึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดย สศค.ยังเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน