ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.78 อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าตามทิศทางภูมิภาค จากเงินไหลออก-จับตาสถานการณ์การเมืองในปท .

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 4, 2019 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.78 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเช้าที่ระดับ 31.74 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ในตลาดโลกวันนี้มีความผันผวน โดยตลาดรอดูความชัดเจนเรื่อง Brexit ส่วน ปัจจัยในประเทศมาจากเรื่องเงินทุนต่างประเทศไหลออก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.72-31.80 บาท/ดอลลาร์

"บาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าจากปัจจัยเรื่อง flow ไหลออก ขณะที่ดอลลาร์ผันผวน ค่าเงินภูมิภาคที่แข็งค่าในช่วงเช้า ทยอยกลับมาอ่อนค่าอยู่ในระดับเดียวกับเรา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.70-31.85 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยการเมือง ภายในประเทศจะเข้ามามีผลกระทบในช่วงที่ไม่มีปัจจัยใหม่จากต่างประเทศ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 111.40 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.48 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1226 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1245 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,644.22 จุด ลดลง 4.84 จุด, -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 34,527.04 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 418.63 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน มี.ค.62 อยู่
ที่ 80.6 จาก 82.0 ในเดือน ก.พ.62 โดยค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับ
เสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าและกำลังซื้อของประชาชนยังไม่ฟื้นขึ้น
มากนัก ประกอบกับ เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าและการที่อังกฤษจะออกจากสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป
(Brexit)
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังมีแนวโน้มเป็นขาลงจนกว่า
จะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมีนโยบายในการบริหารประเทศอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกมากระตุ้น
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยไว้ที่
3.5-3.8% จากเดิมคาดไว้ที่ 4% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรก จะขยายตัวอยู่ที่ 3.3-3.5% ส่วนครึ่งปีหลังหากการเมืองมี
เสถียรภาพ ทุกฝ่ายยอมรับกติกาการเลือกตั้ง คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.7-4% และคาดการณ์การส่งออกขยายตัว 4% เท่าเดิม
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการติดตามงานกระทรวงพาณิย์และมอบแนวทางการดำเนินงาน
หลังการเลือกตั้งว่า ในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และรัฐบาลปัจจุบันยังต้องทำหน้าที่ต่อไปอย่างน้อย 2-3 เดือน จึง
มาให้แนวทางการทำงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยได้เน้นย้ำเรื่องนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือ
Local Economy
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อส่งเสริม
ความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางของอาเซียนและนวัตกรรมทางด้านการชำระเงินเพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งการ
เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของอาเซียนจะเข้มแข็งขึ้นจากการนำเทคโนโลยีทางการเงินสมัยใหม่มาใช้ในบริการชำระเงิน อันจะช่วยสนับสนุน
การค้า การลงทุน และบริการต่างๆ ในภูมิภาค
  • ที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียนบวกสาม เห็นพ้องต้องกันว่าประเทศสมาชิกอา
เซียนบวกสามควรจะมีการเตรียมพร้อมรองรับต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่จะเกิดขึ้น และดำเนินนโยบายการเงินการคลังเพื่อช่วยใน
การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนทั้งในปีนี้และปีหน้า
  • เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ อาจจะประกาศแผนการจัดประชุมสุดยอดร่วมกับ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในระหว่างการพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณ
ว่า การเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศอาจใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่า การค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจหดตัวลง
ราว 30-70% ในระยะยาว หาก 2 ประเทศปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดอีก 25%
  • รัฐบาลจีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดค่าธรรมเนียมที่รัฐบาลเรียกเก็บ และค่าบริการด้านการดำเนินงาน เพื่อลด

ภาระให้กับภาคธุรกิจและประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ