นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนารายใหญ่ ได้เปิดตัวกองทุนการเงินสีเขียวของอาเซียน (ASEAN Catalytic Green Finance Facility) ซึ่งเป็นกองทุนริเริ่มใหม่ เพื่อระดมทุนมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวทั่วทั้งอาเซียน
โดยกองทุนนี้จะระดมทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย 1. จากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund : AIF) 75 ล้านเหรียญสหรัฐ 2. จากเอดีบี 300 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. จาก German Development Bank 300 ล้านยูโร (หรือ 336 ล้านเหรียญสหรัฐ) 4. จาก European Development Bank 150 ล้านยูโร และ 5. จาก Agence Francaise de Developpement 150 ล้านยูโร
กองทุนฯ ดังกล่าว จะจัดสรรเงินกู้และความช่วยเหลือทางวิชาการสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวของภาครัฐ เช่น การขนส่งแบบยั่งยืน การพัฒนาพลังงานสะอาด และระบบน้ำที่มีความยืดหยุ่น และมุ่งหวังที่จะกระตุ้นเงินทุนจากภาคเอกชนโดยการลดความเสี่ยงต่างๆ ผ่านโครงสร้างนวัตกรรมทางการเงินต่างๆ
ขณะเดียวกัน Organization for Economic Cooperation Development และ Global Green Growth Institute จะสนับสนุนการแบ่งปันองค์ความรู้ และการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการเงินสีเขียว นอกจากนั้น Overseas Private Investment Cooperation ได้แสดงความสนใจให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการที่เกิดขึ้นใหม่อีกด้วย
กองทุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของช่องทางใหม่เพื่อโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวอย่างทั่วถึง ภายใต้ AIF ซึ่งเป็นการริเริ่มด้านการเงินระดับภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลอาเซียนและเอดีบีเมื่อปี 2554 และบริหารงานโดยเอดีบี นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น AIF ได้จัดสรรเงินทุนตามพันธะสัญญาแล้วทั้งสิ้น 520 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง ด้านน้ำ และด้านโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมืองทั่วทั้งภูมิภาค นอกจากนี้ AIF ยังได้เปิดตัวกองทุนการเงินแบบทั่วถึง (Inclusive Finance Facility) เพื่อจัดสรรเงินทุนที่มีลักษณะผ่อนปรนให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกัมพูชา ลาว และเมียนมา
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะได้นำเสนอวิสัยทัศน์ด้านความร่วมมือทางการเงินแบบครอบคลุมและยั่งยืนในภูมิภาค ดังนั้นการเปิดตัว 2 กองทุนดังกล่าวภายใต้ AIF เป็นสิ่งที่จำเป็นและเหมาะสมกับเวลามากที่สุด
ด้านนายทาเคฮิโกะ นาคาโอะ ประธานเอดีบี กล่าวว่า เอดีบีจะสนับสนุนรัฐบาลอาเซียนในการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวและเป็นมิตรกับต่อสภาพภูมิอากาศ ผ่านกองทุนการเงินสีเขียวของอาเซียน ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงคุณภาพอากาศและน้ำ และการลดการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมทั่วทั้งภูมิภาค