นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ มอบนโยบายให้คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งหามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฏาคมให้คึกคักมากกว่านี้ ทั้งการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง การอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยมองว่าแพคเกจการท่องเที่ยวทั้งมาตรการภาษีหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่ายังมีความสำคัญอยู่ จึงได้มอบหมายให้ทาง ททท.หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนี้
"ในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้าอยากให้ ททท.มีโครงการพิเศษดึงนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อมากๆ เช่น จีนและอินเดียให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น ซึ่งอยากให้มีการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เข้ามาในประเทศ"นายสมคิด กล่าว
นอกจากนี้ ได้มอบให้ทาง ททท.หามาตรการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น ซึ่งควรมีการโปรโมตโปรแกรมท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ในจังหวัดสำคัญ เช่น หากเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่หรือภูเก็ต นักท่องเที่ยวควรจะไปท่องเที่ยวในรอบๆเมืองที่ไหนได้บ้าง พร้อมทั้งควรจะมีการคัดเลือกสินค้าที่เป็นจุดเด่นของแต่ละเมืองรอง จัดหาสถานที่ที่ขายสินค้าให้ชัดเจน โดยให้ประสานข้อมูลกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อร่วมมือพัฒนาในเรื่องนี้
"ททท. ต้องมีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ โดยได้ยกตัวอย่าง บริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล จำกัด ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ให้มีการเจรจาเพื่อให้นำนักท่องเที่ยวจากจีนมาเที่ยวไทยมากขึ้น และอำนวยความสะดวกตามที่เขาต้องการให้"
นอกจากนี้ นายสมคิด ฝากการบ้านในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในโครงการไทยแลนด์ ริเวียร่าให้ชัดเจนมากกว่านี้ โดยเห็นว่า ควรจะมีจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อมาวางแผนงานการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยให้มองที่อ.หลังสวน จ.ชุมพรเป็นจุดกึ่งกลางในการพัฒนาทั้งตอนบนและตอนล่าง
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวถึงมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าที่จะหมดอายุลงในเดือนเมษายนนี้ แม้ว่าทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เห็นว่าควรขยายไปถึงเดือนกรกฎาคม แต่ทาง ททท.เห็นว่าควรขยายไปถึงเดือนตุลาคม เพื่อรองรับกับช่วงวันชาติของจีน ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีการประสานกับทางตำรวจท่องเที่ยวต่อไป
สำหรับมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เป็นมาตรการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการลดหย่อนภาษี ทั้งค่าที่พัก ค่าโรงแรมนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท และหากท่องเที่ยวในเมืองรองลดหย่อนได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ซึ่งมาตรการนี้จะมีการหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจจะออกเป็นแพคเกจในส่วนของมาตรการการคลัง ก่อนที่จะเสนอให้นายสมคิดพิจารณาในช่วงที่จะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงการคลังหลังเทศกาลสงกรานต์ต่อไป