พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเริ่มใหม่ และเปลี่ยนแปลงการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 รายการภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ตามการเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
โดย ครม.ได้อนุมัติรายการผูกพันเริ่มใหม่เพิ่มเติมระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการ และยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 ก.พ.52 (ที่กำหนดว่า การผูกพันงบประมาณล่วงหน้าควรกำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกินกว่า 5 ปี และรายการรายจ่ายลงทุนที่จะขอผูกพันข้ามปีงบประมาณทุกรายการ ต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีแรกเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 20% ของวงเงินรวมของรายการ) โดยรายการผูกพันเริ่มใหม่ ประกอบด้วย
1. การจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (พ.ศ.2562-2565) วงเงิน 91 ล้านบาท 2. การจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (พ.ศ.2562-2567) วงเงิน 256 ล้านบาท รวม 2 โครงการ 347 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการจากเดิม คือ โครงการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณเกาะจระเข้ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (2562-2563) วงเงิน 361 ล้านบาทเศษ เปลี่ยนมาเป็นโครงการปรับปรุงร่องน้ำและบริเวณพื้นที่จอดเรือ ท่าเรือจุกเสม็ด ระยะที่ 1 ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปีเท่าเดิม (2562-2563) และวงเงินเท่าเดิมที่ 361 ล้านบาทเศษ
เนื่องจากกองทัพเรือ มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายการดังกล่าวเพื่อให้การดำเนินการด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบรรลุตามเป้าหมายในกาเรปิดใช้งานสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ภายในปี 2567 และเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการให้บริการเชิงพาณิชย์และส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล