บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกกล่าวว่า หิมะที่ตกหนักในจีนอยู่เวลานี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ของบริษัท เนื่องจากโรงงานหลายแห่งที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศจีนขาดคนงาน ชิ้นส่วน และพลังงานจนไม่สามารถเปิดดำเนินการได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ฟอร์ด มอเตอร์ ได้ปิดศูนย์วิจัยและโรงงานประกอบรถยี่ห้อ ฟอร์ด และ มาสด้าในเมืองนานจิงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากถนนและสะพานในเมืองถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหลังจากที่ถูกพายุหิมะครั้งรุนแรงสุดในรอบ 50 ปีพัดถล่ม
"เป็นเรื่องอันตรายมากที่จะขอให้พนักงานเดินทางมาทำงานที่โรงงาน" โฆษกของฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกนกล่าว โดยเธอไม่สามารถบอกได้ว่าโรงงานจะกลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้งเมื่อไร
โดยเมืองนานจิงถูกฝังอยู่ใต้หิมะหนา ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมาขอร้องให้โรงงานที่ใช้พลังงานมากลดการผลิตลงเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้ในบ้านเรือน
ขณะเดียวกัน หิมะที่ตกหนักในภาคใต้ของจีน ก็ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นหลายแห่งต้องระงับการผลิตเช่นกัน โดยโตโยต้าได้หยุดการผลิตกะดึกที่โรงงานในมณฑลกวางตุ้ง นอกจากนี้ โรงงานในเทียนจิน ซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศ ถูกปิดในเช้าวันนี้เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องการจัดหาชิ้นส่วนสำหรับประกอบรถ ซึ่งโฆษกหญิงของโตโยต้าไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าโรงงานจะปิดไปนานแค่ไหน
นอกจากนี้ พายุหิมะก็ส่งผลกระทบถึงบริษัทฮอนด้าด้วยเช่นกัน เมื่อบริษัทต้องปิดโรงงานร่วมทุนในกวางตุ้งเมื่อวานนี้ และอีกแห่งในมณฑลหูเป่ยทางภาคกลางของประเทศ เพราะสีสำหรับทารถยนต์จัดส่งมาถึงโรงงานไม่ตรงเวลา
อย่างไรก็ดี โฆษกของฮอนด้ากล่าวว่า โรงงานในกวางตุ้งได้กลับมาเปิดดำเนินการปกติในวันนี้
ด้านนิสสัน มอเตอร์ ก็ปิดโรงงานในมณฑลกวางตุ้งและหูเป่ยเมื่อวันจันทร์และวานนี้
ขณะที่ในนครเซี่ยงไฮ้นั้น บริษัทเซี่ยงไฮ้ ออโต้ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทโฟล์คสวาเกนของเยอรมนี และ เจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าทางบริษัทได้อนุญาตให้คนงานกลับบ้านเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ดี โฆษกของโฟล์คกล่าวว่า โรงงานของบริษัทในเซี่ยงไฮ้และในภาคตะออกเฉียงเหนือยังไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนโฆษกของจีเอ็ม กล่าวว่า บริษัทกำลังจัดตารางเวลาใหม่ให้กับโรงงานในเซี่ยงไฮ้และในมณฑลกวางสี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้
ทั้งนี้ หิมะที่ตกหนักทั้งในภาคตะวันออก ภาคใต้ และตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 50 คน อีกทั้งทำให้เมืองถูกตัดขาดจากไฟฟ้าและเสบียง ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนไม่สามารถกลับบ้านเพื่อร่วมเทศกาลตรุษจีนกับครอบครัวได้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--