นายคาร์ลอส กูเตียร์เรซ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้แสดงความกังวลที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัวขึ้นเพียง 0.6% ในไตรมาส 4 ปี 2550 ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับของไตรมาส 3 ที่ 4.9% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.2%
"เรารู้สึกกังวลที่จีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวขึ้นเพียง 0.6% เราต้องการให้สภาคองเกรสออกมาเคลื่อนไหวในกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด เพราะชาวอเมริกันกำลังรอดูมาตรการดังกล่าว และมาตรการนี้จะช่วยพวกเขาได้"
ขณะที่นายชาร์ลส์ ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า "การที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 4 ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า รัฐบาลสหรัฐจะต้องเร่งดำเนินการผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นโดยเร็ว"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังระบุด้วยว่า ตัวเลขจีดีพีตลอดปี 2550 ขยายตัวขึ้นเพียง 2.2% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้ เป็นผลมาจากภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัย และตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่ลดลง
"เราไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่เราจับตาดูข้อมูลบ่งชี้เศรษฐกิจเพื่อดูว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง" นายกูเตียร์เรซกล่าว
นายเคน เมย์แลนด์ ประธานบริษัทเคลียร์วิว อิโคโนมิกส์ กล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับพายุระดับ 'perfect storm' เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัย ปัญหาในตลาดซับไพรม์ และตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่อ่อนตัวลง เราได้แต่หวังว่าสหรัฐจะสามารถฝ่าพายุลูกนี้ไปได้"
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่ถ่วงดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 37.47 จุด หรือ 0.30% แตะระดับ 12,442.83 จุดเมื่อคืนนี้ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีก 0.50% สู่ระดับ 3.0% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย ก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--