นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กรณีที่รัฐบาลเร่งดำเนินการโครงการใหญ่มูลค่าแสนล้านบาทหลายโครงการในช่วงนี้ โดยแสดงความวิตกว่า บางโครงการยกตัวอย่างเช่น การประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีและอากร หรือดิวตี้ ฟรีใน 4 สนามบิน ยังไม่ได้ใช้วิธีดำเนินการประมูลที่สร้างความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และการใช้อำนาจพิเศษของรัฐบาล จนถูกวิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้เอกชนแทนที่จะป้องประโยชน์ของประเทศ
นายมานะ ระบุว่า "ช่วงเวลานี้มีการเร่งการลงทุนและเร่งดำเนินโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลจำนวนมากที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ท่ามกลางกระแสข่าวที่สงสัยถึงความพยายามของธุรกิจใหญ่บางรายที่จะเข้าครอบงำรัฐ เพื่อตักตวงผลประโยชน์ในหลายๆ โครงการ ซึ่งสาธารณชนต่างคาดหวังว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจะทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ยอมถูกครอบงำหรือเอื้อประโยชน์ให้กับใคร
มีโครงการมูลค่าระดับแสนล้านบาทที่ถูกมองว่ารัฐบาลกำลังทำในสิ่งตรงกันข้าม
เรื่องแรกคือ "ไม่ใช้" ข้อตกลงคุณธรรมในการประมูลร้านค้าร้านดิวตี้ ฟรี ตามที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ พยายามเสนอมาตลอดเพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นของประชาชน
เรื่องที่สองคือ "ใช้" อำนาจพิเศษอุ้มค่ายโทรศัพท์มือถือ โดยยืดการชำระค่าสัมปทานกว่าแสนล้านบาทออกไป ทำให้เอกชนได้ประโยชน์ราว 2.4 หมื่นล้านบาท แต่รัฐกลับเสียโอกาสที่จะได้เงินสดมาใช้ในการพัฒนาประเทศแบบน่ากังขา
ทั้งนี้ เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะมีขึ้นเร็ววันนี้ ประชาชนกำลังต้องการได้นายกรัฐมนตรีที่ซื่อสัตย์ โปร่งใส กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า รัฐบาลจะทำสิ่งที่ตรงใจประชาชนได้มากขนาดไหน"
นอกจากนี้ ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ รายงานว่า หากการแถลงข่าวของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือในวันนี้ ส่อไปในทางที่จะเบียดบังผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จะแถลงข่าวร่วมกันในวันที่ 19 เม.ย.นี้