นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.81 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.76/77 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในตลาดโลกเคลื่อนไหวแบบผสม เนื่องจากตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา
"บาทอ่อนค่าจากเมื่อเย็นวันศุกร์ ขณะที่ตลาดโลกทรงตัว เคลื่อนไหวแบบผสมเพราะตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหาร
เงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.85 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 6M (12 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.81623%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.8250 บาท/ดอลลาร์
- เงินเยนอยู่ที่ 112.09 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 111.89/92 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1283 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1311/1315 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.8280 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (15-19 เม.ย.) ที่ 31.60-31.90 บาท
ต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามปัจจัยในประเทศและทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ถ้อย
แถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าสำคัญ (ทั้งจีน และญี่ปุ่น) และจีดีพีประจำ
ไตรมาส 1/2562 ของจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขา
นิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนเม.ย. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ข้อมูลการ
เริ่มสร้างบ้านเดือนมี.ค. ตัวเลขเงินทุนไหลสุทธิเดือนก.พ. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ Beige Book ของเฟด
- "เครดิตบูโร"เผย "ไอเอ็มเอฟ" ห่วงหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง หลัง พบยอดปรับโครงสร้างหนี้โตต่อเนื่องทั้งยังไหลกลับเป็นหนี้
เสียราว 40% สะท้อนคุณภาพหนี้เปราะบาง ชี้กลุ่ม"เจนวาย-เอ็กซ์" ครองแชมป์เบี้ยวหนี้สูง พบสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบุคคลแย่ลงต่อเนื่อง
ดันหนี้ครัวเรือน โตกระฉูด
- สศช.เตรียมปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ ยอมรับห่วงสงครามการค้ายืดเยื้อฉุดส่งออกโตต่ำ จับตาเศรษฐกิจจีนใกล้
ชิด หวั่นเงินหยวนอ่อนกระทบท่องเที่ยว ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตาม ด้าน "แบงก์ชาติ" มองปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากทั้งใน-ต่าง
ประเทศ ขณะ สำนักวิจัยต่างๆ พาเหรดหั่นจีดีพีลง "นักวิเคราะห์" หนุนรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าภายในเดือน เม.ย.นี้ ททท.เตรียมลงนามความร่วมมือกับ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาการตลาดท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทั้งด้านการดูแลในมิติการค้า และ
การท่องเที่ยว เช่น การจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศร่วมกันตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
ที่ได้มอบนโยบายให้กับ ททท. หาทางร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาทางพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน
- อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าขณะนี้กรมฯ เตรียมข้อมูลที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ)
ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) และ ไทยสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากเอกชนทั้งสอง
ฝ่ายรวมถึงผู้บริหารทั้งอียูและเอฟตาต้องการให้เกิดการเจรจาให้เร็วที่สุด เพราะจะช่วยขยายการค้า การลงทุน ให้มากขึ้นดังนั้นมั่นใจว่า
การเจรจาน่าจะมีความราบรื่น เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายก็มีการเจรจาเอฟทีเอในระดับหนึ่งแล้ว
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้ติดตามและวิเคราะห์นโยบายการหาเสียงเลือกตั้งพรรค
การเมืองพบว่าทุกพรรคมีแนวนโยบายที่ดีแตกต่างกันไป โดยพรรคการเมืองหลัก ส่วนใหญ่มีนโยบายพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเป็นไปในทิศทาง
เดียวกับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของภาคเอกชนตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุน ทั้งภายใน และภายนอกประเทศได้ เช่น การใช้
เทคโนโลยียกระดับขีดความสามารถแข่งขันให้สูงขึ้น, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น, การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยและไม่จำเป็น,
การปฏิรูปบทบาทภาครัฐให้เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจภาคเอกชน
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 5.285 แสนล้านเยน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐได้ตกลงที่จะรวมประเด็นการค้าผ่านระบบดิจิทัลไว้ใน
การเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.พ., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง
เดือนก.พ., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากเฟด, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือน
เม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนี
ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ. และ ตัวเลขการเริ่ม
สร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค.
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--