ดอลลาร์แข็งค่าเทียบเยน หลังเศรษฐกิจสหรัฐซบเซาฉุดยอดส่งออกญี่ปุ่น

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าหลังเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังชะลอตัวอาจฉุดยอดการส่งออกของญี่ปุ่นร่วงลงและกระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
          "ผมไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย" มาร์ก หวัน หัวหน้านักวิเคราะห์จาก ฮั่งเศ้ง อินเวสท์เมนท์ เซอร์วิสเซส กล่าว "แต่เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงแม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อสมดุลทางการค้าของญี่ปุ่น" 
          การส่งออกรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอื่นๆของญี่ปุ่น มีการชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากอุปสงค์จากผู้บริโภคในสหรัฐลดลง
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 106.52 เยนต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 106.17 เยนต่อดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย ส่วนเงินยูโรมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเป็น 1.4846 ดอลลาร์ต่อยูโร จากเดิมที่ 1.4853 ดอลลาร์ต่อยูโร
          โทโมโกะ ฟูจิอิ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การเงินจากแบงค์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เงินเยนจะทรงตัวอยู่ที่ราว 107 เยนต่อดอลลาร์ไปจนสิ้นสุดไตรมาสแรก ส่วนเงินยูโรคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.48 ดอลลาร์ต่อยูโร   
          "ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจและภาคการเงินของยุโรปฉุดไม่ให้เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์" นางฟูจิอิกล่าว โดยกลุ่มประเทศยุโรปต้องพึ่งพาผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำหรับการส่งออกไวน์ ชีส รถยนต์ และสินค้าอื่นๆ ของยุโรป          
          ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ส่งผลให้เงินยูโรทะยานแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบดอลลาร์ที่ 1.4966 ดอลลาร์ต่อยูโร