แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มดิบยังพุ่งต่อ จากความต้องการทั้งตลาดโลกและในปท.

          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มดิบจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อไป จากความต้องการผลิตเพื่อบริโภคและความต้องการผลิตไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งแม้รัฐบาลจะอนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบในช่วงที่ขาดแคลนได้ แต่ก็ถือเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 
          นอกจากนี้ การที่ความต้องการปาล์มน้ำมันเพื่อใช้ในการบริโภคทั้งโดยทางตรง, อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และใช้ผลิตไบโอดีเซล ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทุกประเทศจำเป็นต้องแสวงหาแหล่งพลังงานทดแทนเพื่อการพึ่งพิงการใช้น้ำมัน ทำให้ความต้องการพืชน้ำมันเพื่อนำมาผลิตเป็นไบโอดีเซลขยายตัวขึ้น ส่งผลให้เกิดการแย่งวัตถุดิบระหว่างผู้ผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันพืชและอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากน้ำมันปาล์มและผู้ผลิตไบโอดีเซล เกิดผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันเป็นวงกว้าง
          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์ ควรเร่งดำเนินการวางกรอบแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มแบบบูรณาการโดยประสานข้อมูลและการดำเนินงานระหว่าง 3 กระทรวงอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะวางแผนความต้องการใช้น้ำมันปาล์มกับปริมาณผลผลิตให้สอดคล้องกันเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาวอย่างเหมาะสม
          โดยอาจจะต้องครอบคลุมถึงประเด็นในเรื่องการขยายพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งประเด็นผลกระทบจากการเปิดเสรีตามภาระผูกพันที่ประเทศไทยมีตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA) และองค์การการค้าโลก (WTO)
          "แม้ปัจจุบันสถานการณ์อุปทานน้ำมันปาล์มจะเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว แต่จากการที่ปัญหาปาล์มน้ำมันได้ทวีความสำคัญขึ้นตามลำดับ และได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตในภาคเกษตร การบริโภคอุปโภคสินค้าที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ตลอดจนด้านนโยบายพลังงานของประเทศ" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
          ทั้งนี้จากการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มของโลกปี 2550/51จะเพิ่มขึ้น 5.6% อีกทั้งสต็อกน้ำมันปาล์มในตลาดโลกลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปี 51 คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดมาเลเซียจะปรับเพิ่มขึ้น 4-6% จาก 50 เฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 บาท/ตันเป็น 26,000 บาท/ตัน  
          จากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มที่ขยายตัวสูงโดยเฉพาะในตลาดจีนและอินเดีย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีภาวะเศรษฐกิจเติบโตในอัตราสูงในระยะหลายปีติดต่อกัน จึงคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบจะยังคงสูงต่อไปอีก เนื่องจากความต้องการน้ำมันเพื่อบริโภคและความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และแรงกดดันด้านอุปทานจากการที่มาเลเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลกประสบปัญหาผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ