นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 4/2562 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมานั้น สำนักงาน กสทช. อาศัยอำนาจตามความในข้อ 9(3) ของระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2555 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินมาตรการตามคำสั่งคสช.ดังกล่าวมีทั้งหมด 4 คณะ
นอกจากนี้ยังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขการชดเชยสืบเนื่องจากการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล และการทดแทน ชดใช้ และจ่ายค่าตอบแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ อีก 1ชุด โดยลงนามเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับคำสั่งเรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม มีจำนวน 4 คณะ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1.คณะทำงานด้านการจัดทำหลักเกณฑ์และการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ให้รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคมเป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะผู้ทำงานมีทั้งหมด 12 คน
โดยอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานชุดนี้ ประกอบด้วย จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 700 MHz ตลอดจนจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700MHz และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ดังกล่าว , ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz และประสานงานกับผู้ที่ประสงค์จะขอรับการจัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าว ตลอดจนแจ้งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการอื่นใดตามที่เลขาธิการ กสทช. มอบหมาย
2.คณะทำงานด้านหลักประกันและการชำระเงิน ให้รองเลขาธิการ กสทช.สายงานยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร เป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะทำงานมีทั้งหมด 10 คน โดยมีอำนาจหน้าที่ ตรวจสอบ พิจารณา และดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการคืนหลักประกันเดิม และ/หรือ การจัดทำหลักประกันใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม , ตรวจสอบและดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินตามข้อ 12 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม และดำเนินการอื่นใดตามที่เลขาธิการ กสทช. มอบหมาย
3.คณะทำงานด้านการสนับสนุนเงินเพื่อสำรวจความนิยมช่องรายการโทรทัศน์และการใช้จ่ายเงินกองทุนให้รองเลขาธิการ กสทช.ยุทธศาสตร์และกิจการองค์กรเป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะทำงานมีทั้งหมด 7คน มีอำนาจหน้าที่ ศึกษาและพิจารณาจัดสรรเงิน ตลอดจนดำเนินการใดๆ เพื่อสนับสนุนให้มีการจัดตั้งองค์กรกลางเกี่ยวกับการสำรวจความนิยมช่องรายการโทรทัศน์ ตามข้อ 14 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามข้อ 15 วรรคสอง ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม และดำเนินการอื่นใดตามที่เลขาธิการ กสทช. มอบหมาย
4.คณะทำงานด้านการสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะ ให้รองเลขาธิการ กสทช. สายงานบริหารคลื่นความถี่และภูมิภาคเป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะทำงาน 11 คน มีอำนาจหน้าที่ ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ทั้งด้านการดำเนินกิจกรรมและด้านการสื่อสารสู่สาธารณะ และดำเนินการอื่นใดตามที่เลขาธิการ กสทช. มอบหมาย
สำหรับคณะอนุกรรมการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขการชดเชยอันเนื่องมาจากการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล และการทดแทน ชดใช้ และจ่ายค่าตอบแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ในคำสั่งมอบหมายเลขาธิการ กสทช. เป็นประธานอนุกรรมการอนุกรรมการมี 11 คน ได้แก่ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ,ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา , ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด , ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , ผู้แทนสำนักงบประมาณ , ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ เป็นเลขานุการ พร้อมผู้ช่วยเลขานุการ ประกอบด้วยนายสมบัติ ลีลาพตะ , นายกีรติ อาภาพันธุ์ ,นางปริตา วงศ์ชุตินาท และนางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ
คณะอนุกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่ ใน 4 ข้อ คือ 1.ศึกษาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขชดเชยอันเนื่องจากการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล และการทดแทน ชดใช้ และจ่ายค่าตอบแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม 2.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการตามที่คณะอนุกรรมการฯ มอบหมาย 3. เชิญบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง คำอธิบาย คำแนะนำหรือความเห็นได้ และ 4.ดำเนินการอื่นใดตามที่เลขาธิการ กสทช. มอบหมาย
นายฐากร กล่าวอีกว่า คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ทำให้การประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่เพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G