นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงการขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่กระทรวงการคลังถืออยู่ว่า สคร. อยู่ระหว่างรอเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติการขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 2 บริษัท เนื่องจากมีนักลงทุนแสดงความสนใจและเสนอราคาเข้าซื้อในระดับที่น่าสนใจ จากเป้าหมายที่จะขายหุ้นทั้งสิ้น 24 บริษัท
ส่วนหุ้นในบริษัทเอกชนที่เหลือนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประกาศขาย โดยที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีนักลงทุนแสดงความสนใจเสนอราคาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถตกลงในรายละเอียดได้ เนื่องจากราคาที่เสนอมานั้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) และราคาประเมิน จึงทำให้ สคร.ไม่สามารถพิจารณาขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่ถืออยู่ในส่วนดังกล่าวออกไปได้
ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวด้วยว่า สคร. จะเปิดขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่กระทรวงการคลังถือในส่วนที่เหลือต่อไปจนกว่าจะได้ราคาเป็นที่น่าพอใจ จึงจะเสนอเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติ ส่วนหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กระทรวงการคลังถืออยู่นั้น ขณะนี้ไม่มีแผนจะขายออกไปแต่อย่างใด
"จริง ๆ แล้ว กระทรวงการคลังมีเป้าหมายที่จะขายหุ้นในบริษัทเอกชนที่ถืออยู่ทั้งหมด 24 บริษัท แต่ตอนนี้สรุปได้เพียง 2 บริษัท เพราะนักลงทุนเสนอราคาเข้ามาอยู่ในจุดที่รับได้ ส่วนที่เหลือยังติดปัญหาว่านักลงทุนที่สนใจเสนอราคาเข้ามาค่อนข้างต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เบื้องต้นต้องยอมรับว่าอาจเป็นเพราะบริษัทหรือธุรกิจไม่มีความน่าสนใจเพียงพอ" นายประภาศ กล่าว
พร้อมระบุว่า สคร. จะได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุที่นักลงทุนไม่ให้ความสนใจซื้อหุ้นในบริษัทหรือธุรกิจดังกล่าว เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
สำหรับหุ้นที่กระทรวงการคลังพิจารณาขายออกไปนั้น ไม่ใช่หุ้นยุทธศาสตร์ที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลจำเป็นต้องถือต่อไป โดยส่วนหนึ่งเป็นหุ้นที่ได้มาจากการยึดทรัพย์ในอดีต ซึ่งเป็นผลให้ สคร. ต้องเข้าไปดูแลหุ้นดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ผลตอบแทนมากนักเมื่อเทียบกับภาระที่ต้องเข้าไปดูแล