นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยความคืบหน้าการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าตามนโยบายรัฐบาลว่า จากมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศของรัฐบาล ที่กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้ กฟผ. ดำเนินการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 160,000 ตัน เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง และมติคณะกรรมการกำกับนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 มอบหมายให้ กฟผ. เพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากเดิม 1,000 ตันต่อวัน เป็น 1,500 ตันต่อวัน และให้ กฟผ. จัดหาสถานที่รับมอบน้ำมันปาล์มดิบที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเร่งดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบและช่วยกระตุ้นราคาผลปาล์มน้ำมันของเกษตรกรให้มีราคาสูงขึ้นนั้น ขณะนี้ กฟผ. ได้รับมอบน้ำมันปาล์มดิบกับผู้จำหน่ายน้ำมัน ปาล์มดิบทั้งสิ้น 31 ราย ครบตามจำนวน 160,000 ตันแล้ว โดยได้ดำเนินการรับมอบน้ำมันปาล์มดิบเที่ยวสุดท้าย จำนวน 66,000 ตัน เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2562 ณ คลังน้ำมันปาล์มดิบ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งคาดว่าการจัดส่งจากคลังสุราษฎ์ธานีเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงได้หมดภายในต้นเดือนมิถุนายน
นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องการเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบที่โรงไฟฟ้าบางปะกงจาก 1,000 ตันต่อวัน เป็น 1,500 ตันต่อวันนั้น คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้มีมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) และอนุมัติให้ กฟผ. เพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงหน่วยที่ 3 เป็น 1,500 ตันต่อวัน