กรมบัญชีกลาง-พาณิชย์-KTB ขยายเวลารับสมัครร้านค้าใช้แอพถุงเงินประชารัฐ ตั้งเป้า 1 แสนร้านทั่วประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 23, 2019 15:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้เปิดรับสมัครร้านค้าใช้งานแอพพลิเคชั่น "ถุงเงินประชารัฐ" มาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.61 - 22 เม.ย.62 มีร้านค้าที่ใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐแล้ว 23,700 ร้านค้า เมื่อรวมกับร้านธงฟ้าประชารัฐที่รับชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) 34,221 ร้านค้า จะมีร้านค้าที่รองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งสิ้น 57,921 ร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้าอุปโภค เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก เป็นต้น

โดยกระทรวงการคลังต้องการส่งเสริมให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับความสะดวกและมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น สามารถชำระค่าอาหารจากร้านค้าขนาดเล็กที่จำหน่ายอาหารสด อาหารสำเร็จรูป และอาหารตามสั่งได้ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายรับสมัครร้านค้าที่ใช้แอพฯ ถุงเงินประชารัฐให้ได้ 1 แสนร้านค้า และพัฒนาระบบการรับสมัครให้เป็นแบบ One Stop Service

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดรับสมัครร้านค้าเพื่อใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ แบบ One Stop Service ที่ตลาดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2562 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้าและสามารถใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ ได้ทันที ณ วันที่สมัคร โดยได้ประชุม Video Conference สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สาขาของธนาคารกรุงไทย เพื่อซักซ้อมความเข้าใจก่อนลงพื้นที่รับสมัครร้านค้าใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ ทุกอำเภอต่อไป

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ร้านค้าที่สนใจสมัครใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ เพื่อรับชำระค่าสินค้าอุปโภคและบริโภค สามารถสมัครได้ที่จุดให้บริการของตลาด (สำนักงานคลังจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะแจ้งแผนการลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัดให้ทราบต่อไป) โดยเจ้าของร้านเตรียมบัตรประชาชน บัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตรองรับปฏิบัติการแอนดรอย version KitKat 4.4 ขึ้นไป หรือปฏิบัติการ IOS Version 9.0 ขึ้นไป และสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ โดยร้านค้ากรอกแบบฟอร์มการสมัคร พร้อมแนบสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยฯ ประเภทออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน

ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา ให้แสดงบัตรประชาชนตัวจริง หากเป็นนิติบุคคล ต้องมีสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารและบันทึกเข้าระบบ ร้านค้าจึงจะสามารถดาวน์โหลดแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ พร้อมทั้งเปิดให้ใช้งานได้ทันที กรณีที่ร้านค้ายังไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยฯ ในวันรับสมัครให้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยฯ แล้วร้านค้าจะสามารถดาวน์โหลดและใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐได้ในวันถัดไป

น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐชำระเงินค่าสินค้า ทั้งจากวงเงินสวัสดิการ (200/300 บาทต่อเดือน) และจากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) กับร้านค้าที่ติดตั้งแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ ได้ 2 วิธี ที่ง่ายและสะดวก ดังนี้

1) ร้านค้าทำการสแกนหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ > ใส่จำนวนเงิน > ผู้มีสิทธิยืนยันตัวตนด้วยรหัส PIN 6 หลัก (เลข 6 หลักสุดท้ายของบัตรประชาชน หรือรหัส 6 หลักใหม่ที่เปลี่ยนแล้ว)

2) ร้านค้าทำการสแกนหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ > ใส่จำนวนเงิน > สแกนใบหน้าของผู้มีสิทธิ (ระบบจะให้กระพริบตา) และเพื่อให้การรับชำระเงินผ่านแอพฯ ถุงเงินประชารัฐใช้งานง่ายและสะดวกขึ้น หากสแกนข้อมูลหน้าบัตรไม่สำเร็จ ระบบจะให้ใส่เลข 8 หลักสุดท้ายที่อยู่ด้านหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทน

ทั้งนี้ ข้อมูลการซื้อสินค้าผ่านแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ จะส่งผ่านระบบ Online ไปยังธนาคารกรุงไทย เพื่อทำข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่เจ้าของร้านค้าในวันถัดไป (กรณีติดวันหยุดจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยฯ ในวันแรกที่เปิดทำการ)

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ร้านค้าที่สมัครใช้แอพฯ ถุงเงินประชารัฐ จะต้องมีโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต รองรับปฏิบัติการแอนดรอย version KitKat 4.4 ขึ้นไป หรือปฏิบัติการ IOS Version 9.0 ขึ้นไป ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้า บมจ. ทีโอที ได้จัดโทรศัพท์มือถือแบบ Smart Phone รวมทั้งซิมโทรศัพท์มือถือ เพื่อจำหน่ายให้เฉพาะร้านค้าที่มีความประสงค์สมัครใช้งานแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ ในราคาพิเศษด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ