พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย รัฐบาลลาว และรัฐบาลจีน ว่าด้วยการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีกำหนดจะเข้าร่วมประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งที่ 2 ในระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย.62 ที่ประเทศจีน ซึ่งในระหว่างการประชุมดังกล่าว จะมีพิธีการลงนามในบันทึกความร่วมมือของทั้ง 3 ประเทศดังกล่าว
สำหรับร่างบันทึกความร่วมมือฉบับนี้ มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย
1. การเชื่อมต่อโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน และโครงการรถไฟระหว่างจีน-ลาว ซึ่งเป็นการสนับสนุนการเชื่อมโยงด้านระบบรางในภูมิภาค
2. ทางรถไฟขนาดทางมาตรฐาน (Standard gauge) ของโครงการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย - เวียงจันทน์ จะใช้มาตรฐานทางเทคนิครถไฟของจีน โดยจะมีการสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านท้ายน้ำของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) และจะมีทางรถไฟทั้งขนาดทางมาตรฐาน และขนาดทาง 1 เมตร
3. พิธีการศุลกากรและสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณชายแดน จะตั้งอยู่ทั้งในบริเวณชายแดนของฝั่งไทยและฝั่งลาว โดยจะมีการพิจารณาความเป็นไปได้ในการลดขั้นตอนพิธีการศุลกากรบริเวณชายแดน
4. กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน และโครงการรถไฟจีน-ลาวไม่ตรงกัน จึงมีการแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 จะพิจารณาให้มีการจัดตั้งสถานีท่าและสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าทั้งในฝั่งไทยและฝั่งลาว เพื่อเชื่อมต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว มายังโครงข่ายรถไฟขนาดทาง 1 เมตรที่มีอยู่ของไทย ส่วนระยะที่ 2 โครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จะเชื่อมต่อกับสถานีดังกล่าวตามการดำเนินการในระยะที่ 1 เพื่อเชื่อมต่อโครงการรถไฟจีน-ลาว และโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน
5. ไทยและลาวจะดำเนินการตามกระบวนการภายใน เพื่อขอความเห็นชอบในการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ของแต่ละฝ่ายโดยเร็ว และจะพยายามให้การก่อสร้างโครงการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ แล้วเสร็จในช่วงเวลาเดียวกับโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย โดยฝ่ายจีนจะเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินโครงการเชื่อมต่อในงานที่เกี่ยวข้องตามที่ไทยและลาวเห็นชอบ และเป็นไปตามขั้นตอนภายในของประเทศตน