รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ และขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 525 ล้านบาท ออกไปจากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2562 เป็นสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2562 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
มาตรการดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 - พฤษภาคม 2562 แต่เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะรับมอบน้ำมันปาล์มดิบจากผู้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบและชำระเงินค่าน้ำมันปาล์มดิบแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2562 และมีขั้นตอนการขอรับเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบ 160,000 ตัน เป็นเชื้อเพลิงกับรายได้จากการขายกระแสไฟฟ้ากับสำนักงบประมาณในวงเงิน 525 ล้านบาท ภายในเดือนพฤศจิกายน 2562
ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงเสนอขอขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการการดำเนินการที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 56 ให้งบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ประเภทงบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ยังมิได้ก่อหนี้ผูกพันแต่ได้มีการกันเงินและขอขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังไว้ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2563 ทั้งนี้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ในการประชุมครั้งที่ 1/2562 ได้มีมติเห็นชอบด้วยแล้ว