ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.91 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค จากดอลล์อ่อนหลังบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ลดลง แม้ GDP Q1/62 ออกมาดี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 29, 2019 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.91 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.98 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าแม้ตัว เลขจีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐจะออกมาดี แต่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้อัตราตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง

"บาทแข็งจากช่วงท้ายตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.85 - 31.95 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 6M (26 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.77077%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 111.62 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 111.73/75 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1146 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1138/1140 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.0070 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท ระหว่างวันที่ 29 เม.ย. – 3 พ.ค. 2562 อยู่ที่ 31.80-
32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่ปัจจัยการเมือง รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมี.ค. และเงินเฟ้อเดือนเม.
ย. ของไทย ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ ภาคบริการ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. ยอดทำสัญญาการขายบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน และดัชนี Core PCE Price Index เดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม

  • "คลัง" ยังมั่นใจจีดีพีปีนี้โตไม่ผิดฝันที่ 4% หลังเข็นมาตรการกระทุ้งเศรษฐกิจครบเครื่อง มองปัจจัยในประเทศยังแกร่ง
  • "แบงก์ชาติ" เกาะติดมาตรการ "แอลทีวี" หลังเริ่มใช้มาแล้ว 1 เดือน พบมีลูกค้าบางส่วนทิ้งดาวน์ ย้ำคาดการณ์ไว้อยู่
แล้ว เหตุมาตรการนี้ช่วยสกัดดีมานด์เทียม ด้าน "นายแบงก์" ยอมรับสินเชื่อเม.ย.เริ่มแผ่ว หลังลูกค้าเร่งโอนในช่วงก่อนหน้า เตรียมปรับ
กลยุทธ์เจาะตลาดรีไฟแนนซ์แทน
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) เปิด
เผยว่า ธนาคารยังคงเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อในปีนี้เติบโตที่ 6-8% แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะมีปริมาณการเติบโตไม่มากนัก
ประมาณ 1.4% โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธนาคารจะมุ่งเน้นขยายตลาดสินเชื่อเทรดไฟแนนซ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากเดิมที่มักจะเป็นที่รู้จัก
แต่ สินเชื่อบ้านเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าไต้หวันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ส่งออก-นำเข้า
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.2 ในเดือนเม.ย. แต่
สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 97.0 จากระดับ 98.4 ในเดือนมี.ค.
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(GDP) ประจำไตรมาส 1/2562 ที่ระดับ 3.2% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% และสูงกว่าระดับ 2.2% ในไตรมาส
4/2561
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยอัตรา
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.502% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ
2.919%
  • ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่
เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรก
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการเฟดจะจัดการประชุม
เป็นเวลา 2 วัน โดยจะเริ่มประชุมในวันที่ 30 เม.ย. และจะแถลงมติการประชุมในวันที่ 1 พ.ค. ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่
ของวันที่ 2 พ.ค.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด จะคงอัตรา
ดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมครั้งนี้
  • นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยคาดว่านายพาวเวล
จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งสัญญาณเกี่ยวกับงบดุลของเฟด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ