พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ เพื่อเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน อันเนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำ จากสภาพอากาศร้อนจัดส่งผลให้ปาล์มสุกเร็ว และผลผลิตปาล์มดิบออกสู่ตลาดมากจนล้นกำลังสกัดที่โรงงานสกัดมีอยู่ ซึ่งส่งผลให้ราคาผลปาล์มหน้าลานเทมีราคาตกลง
พล.อ.ประวิตร กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องทำงานเป็นทีม ประสานงานใกล้ชิด เร่งลดปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกิน ทั้งมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยใช้นำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 รวมทั้งการเข้มงวดตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือให้เป็นผลรูปธรรมโดยเร็ว
พร้อมทั้ง ได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำแนวทางการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 200,000 ตัน ไปผลิตกระแสไฟฟ้าใน 3 เดือน โดยเร่งจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดคุณสมบัติทันทีใน พ.ค. จำนวน 100,000 ตัน (ชำระภายใน 7 วัน หลังส่งมอบ) พร้อมทั้งให้ บมจ.ปตท. (PTT) เร่งเข้ามาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซล B20 และประสานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กระตุ้นและส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 รวมทั้งให้ กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานและติดตามความร่วมมือจากโรงงานสกัดทุกโรง
อีกทั้ง ขอให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำแนวทางแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม โดยเร่งติดตามขับเคลื่อนแก้ปัญหาทั้งระบบให้มีผลทันที รวมทั้งให้ประสานลดราคาปุ๋ยแก่เกษตรกร และส่งเสริมการบริโภคน้ำมันปาล์ม พร้อมทั้งให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง ทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการสายพันธุ์ปาล์ม การเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งการดูแลช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อการเกษตร ทั้งนี้ เร่งนำข้อสรุปจากการประชุมที่ได้ข้อยุติเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 พ.ค.62
ด้านนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ จะให้ กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพิ่มอีกไม่เกิน 2 แสนตัน จากเดิมที่รับซื้อแล้ว 1.6 แสนตัน เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งกฟผ.หารือร่วมกับทางกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาด เพื่อกำหนดราคารับซื้อ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
สำหรับรูปแบบการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบล็อตใหม่ ยังคงเป็นแนวทางเดิม แต่จะไม่ใช่ราคาเดิมที่ 18 บาท/กิโลกรัม แต่จะเป็นราคารับซื้อตามราคาตลาด คาดว่าจะอยู่ที่ 15-16 บาท/กิโลกรัม ซึ่งงบประมาณที่ใช้สำหรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 1 แสนตันแรก จะอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท โดย กฟผ. จะแบกรับภาระไปก่อน ขณะที่ภาครัฐต้องการให้การรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 1 แสนตัน เสร็จสิ้นภายในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งกฟผ. สามารถดำเนินการได้ โดยจะรับซื้อจากเกษตรกรสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงพาณิชย์ มาเก็บไว้ในสต็อกหลังจากนั้นนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบางปะกง ในปริมาณ 1,500 ตัน/วัน