ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.พ.) ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นและดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวปานกลาง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังไม่ได้รับผลกระทบจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ที่ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.4803 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ระดับ 1.4877 ดอลลาร์ต่อยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9677 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.9900 ดอลลาร์ต่อยูโร
ดอลลาร์ยังแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 106.47 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 106.43 เยนต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต ซึ่งสะท้อนกิจกรรมของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อประจำโรงงานต่างๆ อยู่ที่ระดับ 50.7 ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจาก 48.4 ในเดือนธ.ค.
ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 แสดงถึงการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว โดยดัชนีได้ลดลงในเดือนธ.ค. หลังจากที่ขยายตัวติดต่อกัน 10 เดือน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้น 92.83 จุด หรือ 0.73% แตะระดับ 12,743.19 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวไมโครซอฟท์ คอร์ป เสนอซื้อกิจการ ยาฮู อิงค์ และแผนช่วยเหลือสำหรับภาคการประกันหุ้นกู้ที่กำลังประสบปัญหา
ดอลลาร์ไม่ได้แรงกดดันจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.ลดลง 17,000 ตำแหน่ง นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี และเป็นการส่งสัญญาณครั้งใหม่ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงอย่างรุนแรง ขณะที่อัตราว่างงานขยับลงเล็กน้อยแตะ 4.9% ในเดือนม.ค. จาก 5% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากแรงงานภาคพลเรือนที่ลดลง
"ค่าเงินยูโรไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐปรับตัวลดลง ทั้งนี้ เมื่อค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวต้านทางเทคนิคที่ระดับ 1.4920 ดอลลาร์ต่อยูโร นักลงทุนจึงตัดสินใจชะลอการทำโพสิชั่นก่อนช่วงสุดสัปดาห์" คาร์ลส ฟอร์เคสกี รองประธานฝ่ายปริวรรตเงินตราต่างประเทศจากธนาคารโซซิเอเต เจเนอราลกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--