นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.57 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.64/70 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.55-31.75 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องและแข็งค่ากว่าภูมิภาค หลังจากหลุดแนวรับสำคัญที่ 31.65 หลังจากนั้นก็มีแรงขายดอลลาร์อย่างต่อ เนื่อง" นักบริหารเงินระบุ
สำหรับสัปดาห์หน้าประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ระหว่าง 31.50-31.55 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีรายงาน ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.81 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 109.70/110.20 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1232 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1210/1250 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,648.69 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด, +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 49,475.68 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,591.66 ลบ.(SET+MAI)
- คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ
- ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯเตรียมปรับขึ้นภาษีสินค้า
- รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงการที่สหรัฐฯ เตรียมปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมเป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. ว่า การเตรียมขึ้น
- ผู้แทนจีนได้ออกแถลงการณ์ว่า จีนเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการที่สหรัฐได้ปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมเป็น 25% วงเงิน 2
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับคาดการณ์ผลกระทบจากภัยแล้งที่มีต่อพืชเกษตรที่กำลังเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูแล้ง จากเดิมที่เคย
ประเมินผลกระทบของภัยแล้งในปี 2562 (ณ เดือนมีนาคม) ว่าน่าจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม โดยคิดเป็นมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
ราว 15,300 ล้านบาท แต่ครั้งนี้จะเป็นการปรับคาดการณ์กรอบเวลาที่เกิดภัยแล้งเพิ่มเติมว่า ภัยแล้งอาจกินเวลาลากยาวออกไปอีกราว
2 เดือนคือ มิถุนายน-กรกฎาคม ซึ่งอาจกระทบต่อมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นราวเดือนละ 1,000 ล้านบาท จนอาจประเมิน
ได้ว่าหากภัยแล้งลากยาวไปจนถึงเดือนก.ค.2562 ก็อาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมที่ราว 17,300 ล้านบาท