สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกมาวิจารณ์กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปคที่ไม่ยอมปรับขึ้นเพดานการผลิตในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะเปราะบางอยู่แล้ว ในขณะที่อุปทานน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับที่ตึงตัวมาก
แถลงการณ์ของ IEA ระบุว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่สูงมากเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดแรงกดดันด้านความเสี่ยงมากขึ้น
โอเปคได้จัดการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยชี้ว่า วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจการปล่อยกู้เพื่อการจำนองในภาคอสังหาฯของสหรัฐนั้นเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับเศรษฐกิจโลกมากกว่าการขาดแคลนน้ำมัน
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า นายเชคิบ เคลิล ประธานการประชุมโอเปคและรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอัลจีเรียกล่าวว่า เราไม่คิดว่าทั่วโลกจะต้องเป็นห่วงเรื่องการขาดแคลนน้ำมัน ประเทศต่างๆน่าจะเป็นห่วงเรื่องวิกฤตการณ์การเงินที่กำลังส่งผลกระทบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่า
สมาชิกโอเปคระบุว่า มุมมองที่มีต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจนั้น การผลิตน้ำมันในระดับปัจจุบันของโอเปคถือว่าอยู่ในระดับที่เพียงพอแล้วที่จะรองรับความต้องการน้ำมันในไตรมาสแรกของปี แต่ IEA ไม่เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว
IEA ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า การคงกำลังการผลิตไว้จนถึงสิ้นไตรมาส 2 นั้น จะเพียงพอต่อการเติมเต็มสำรองน้ำมันเมื่อพิจารณาจากสำรองน้ำมันในปีที่แล้ว ดังนั้นการเพิ่มสำรองจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อเป็นการรับประกันอุปทานที่เพียงพอก่อนที่จะถึงช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวอีกครั้ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--