นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่มีความพยายามสร้างประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับกรณีข้อพิพาทระหว่างไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ว่าจะล้มมวยและมีการไล่ยึดที่ดินทำกินของชาวบ้านให้นายทุนทำเหมืองแร่นั้น ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล และขณะนี้ไทยเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ กับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด โดยอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นอนุญาโตตุลาการ คาดว่าจะรู้ผลการพิจารณาภายใน 2 ปี
ส่วนประเด็นการไล่ยึดที่ดินทำกินของชาวบ้านให้นายทุนทำเหมืองแร่ ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน ประเด็นดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินการตามนโยบายทวงคืนผืนป่า กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านป้องกันและปราบปรามทรัพยากรป่าไม้ ดำเนินมาตรการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ สำหรับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทุกชนิดแร่ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 กำหนดให้การอนุญาตให้ทำเหมืองแร่ได้เฉพาะในพื้นที่ที่เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง ซึ่งเป็นเป็นการกำหนดเขตพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการทำเหมืองภายใต้วัตถุประสงค์ของการบริหารจัดการทรัพยากรแร่อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยการยื่นขอประทานบัตรในพื้นที่ใดต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดิน หรือหากเป็นที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐ ก็ต้องได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์เพื่อการทำเหมืองในพื้นที่นั้น ๆ จากหน่วยงานของรัฐเจ้าของพื้นที่ก่อน