นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เชื่อว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2562 นี้จะยังขยายตัวได้ 3-4% แม้จะมีปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งนี้ พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความเข้มแข็ง มีความมั่นคงทางการเงินการคลัง และยังเป็นประเทศที่น่าลงทุน รวมไปถึงการค้ายังเกินดุล เงินสำรองในประเทศค่อนข้างสูง หนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับการบริหารจัดการเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่ต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้เหล่านี้ด้วย
"ความเสี่ยงเศรษฐกิจเราน้อย แต่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเราได้รับผลกระทบ เราจึงไม่อยากให้การเติบโตเราลดลง เพราะจะส่งผลต่อการกระจายรายได้ที่ต่ำไปด้วย ถ้าเราบริหารจัดการดีๆ 3-4% อยู่ในวิสัยที่ทำได้ และคลังยังประเมินที่ 3.8% อยู่ที่การบริหารจัดการด้วย" รมว.คลัง กล่าว
สำหรับการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจนั้น รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากงบเบิกจ่ายกว่า 3 แสนล้านบาท มีหลายรัฐวิสหกิจที่เบิกจ่ายได้ดีกว่าแผน จึงได้สั่งการให้มีการเร่งรัดให้มีการลงทุนในช่วงเดือนพ.ค.และ มิ.ย.ให้มากขึ้น โดยยังมีรัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงานที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าแผน ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย, บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT), องค์การเภสัชกรรม, บมจ. การบินไทย (THAI) และ บริษัท ไปรษณีย์ จำกัด
ส่วนกรณีที่ทางการสหรัฐฯ จะเพิ่มจำนวนประเทศที่ถูกตรวจสอบการแทรกแซงค่าเงินเพิ่มเติม ในการประกาศรายงาน FX report ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยนั้น รมว.คลัง กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบกับไทยมากนัก ซึ่งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การลดเงินช่วยเหลือนั้น รมว.คลัง ชี้แจงว่า ทางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ช่วยเหลือทางการเงินมาหลายปีแล้ว หรือจะส่งผลต่อการเจรจาการค้า ทางการไทยก็ไม่ได้มีการเจรจา FTA กับสหรัฐในขณะนี้