นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 - เมษายน 2562) ได้จำนวน 956,684 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 22,314 ล้านบาท หรือ 2.4% และสูงกว่าปีก่อนถึง 57,251 ล้านบาท หรือ 6.4% โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จัดเก็บได้ 23,695 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 19,525 ล้านบาท เนื่องจากการเร่งรัดติดตามจัดเก็บภาษีและระดับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสูง
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ จัดเก็บได้ 36,184 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2,149 ล้านบาท เนื่องจากการเร่งโอนอสังหาริมทรัพย์ก่อนมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้านหลังที่สองเริ่มบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2562
- อากรแสตมป์ จัดเก็บได้ 9,447 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 424 ล้านบาท เนื่องจากการติดตามจัดเก็บภาษีจากการทำสัญญาและตราสารเพิ่มขึ้นตามโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชน และการโอนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
โฆษกกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2562 การจัดเก็บภาษีขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ผันผวน อย่างไรก็ดี กรมสรรพากรจะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี โดยการส่งเสริมความสมัครใจในการเสียภาษีผ่านการประชาสัมพันธ์บริการดิจิทัล การติดตามการยื่นแบบแสดงรายการภาษี โดยใช้ Data Analytics วิเคราะห์ข้อมูลการยื่นแบบ เพื่อติดตามให้ผู้ประกอบการเสียภาษีสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง การติดตามผู้ประกอบการรายสำคัญในท้องที่ การบูรณาการข้อมูลภายในและภายนอกเพื่อเชื่อมโยงไปยังรายได้ที่แท้จริงของผู้ประกอบการ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการปฏิบัติงาน
"กรมสรรพากรมั่นใจว่า ในปีงบประมาณ 2562 จะสามารถจัดเก็บรายได้ สูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 2.0 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ให้ยั่งยืนต่อไป" โฆษกกรมสรรพากร ระบุ