สื่อตปท.ชี้ข้อเสนองบประมาณของ"บุช"อาจทำให้ยอดขาดดุลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น

          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า งบประมาณซึ่งนำเสนอโดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จำนวน 3.1 ล้านล้านดอลลาร์อาจส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าบุชจะพยายามใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อออกมาตรการควบคุมบริการทางการแพทย์ และปรับลดจำนวนโครงการที่ได้รับความนิยมภายในประเทศลง
          กระทรวงกลาโหมสหรัฐอาจได้รับงบประมาณ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 8% ของงบประมาณทั้งหมดสำหรับปีงบประมาณ 2552 ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.
          รายได้และต้นทุนของโครงการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่ลดลง จะส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นอย่างมหาศาลที่ระดับ 4.10 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ และที่ระดับ 4.07 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2552 ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่า สถิติดังกล่าวแตกต่างจากสถิติเมื่อ 4 ปีที่แล้วไม่มากนักที่ 4.13 แสนล้านดอลลาร์
          ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.7% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จากสภาคองเกรสและภาคเอกชนคาดการณ์ไว้ ส่วนงบประมาณในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในอิรักและอัฟกานิสถานจำนวน 7.0 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใต้การอนุมัติของคณะรัฐบางชุดนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้าดำรงตำแหน่ง
         บุชคาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลจะอยู่ระดับ 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2555 ตามที่เคยให้สัญญาไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันบุชได้เน้นการปรับลดค่าใช้จ่ายจากการขนส่งไปจนถึงการบริการด้านการแพทย์ และโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลไปสู่กลุ่มองค์กรที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อช่วยเหลือคนจน เพื่อที่ทีมบริหารของบุชจะสามารถทำตามข้อตกลงเรื่องปรับลดภาษีที่เคยหาเสียงไว้ในปี 2544 และ 2546 ได้ แทนที่แผนการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปี 2553
         พรรคเดโมแครตชี้ว่า การคาดการณ์ยอดเกินดุลงบประมาณในปี 2555 ขึ้นตั้งอยู่บนพื้นฐานปัจจัยต่างๆซึ่งรวมถึงงบประมาณในการทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานจำนวน 7.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2552  แผนงบประมาณดังกล่าวไม่ได้รวมงบประมาณในการทำสงครามปีหน้า เพราะมีเป้าหมายที่จะตรึงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นต่ำ (AMT)  
          นอกจากนี้ สํานักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐคาดการณ์ว่า การกำหนดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นต่ำ (AMT) ในปี 2555 จะช่วยให้ประเทศมีรายได้ทั้งสิ้น 1.18 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่ายอดเกินดุลที่บุชได้คาดการณ์ไว้ในปีดังกล่าวมากกว่าสองเท่า